SlideShare a Scribd company logo
1 of 29
Download to read offline
วิชาวิทยาศาสตร์ พนฐาน ว21102
                  ื
ระดับชั นมัธยมศึกษาปี ที 1

ตัวชี วัดข้ อที 1 สื บค้นข้อมูลและอธิ บายปริ มาณสเกลาร์ ปริ มาณเวกเตอร์
1. ปริ มาณทีมีแต่ขนาดเพียงอย่างเดียวหมายถึงปริ มาณในข้อใด
          ก. ปริ มาณเอสไอ
          ข. ปริ มาณเวกเตอร์
          ค. ปริ มาณสเกลาร์
          ง. ปริ มาณทางฟิ สิ กส์
2. ปริ มาณทีมีทงขนาดและทิศทางหมายถึงปริ มาณในข้อใด
                  ั
          ก. ปริ มาณเอสไอ
          ข. ปริ มาณเวกเตอร์
          ค. ปริ มาณสเกลาร์
          ง. ปริ มาณทางฟิ สิ กส์
3. ข้อใดจัดเป็ นปริ มาณสเกลาร์ ทงหมดั
          ก. มวล ระยะทาง เวลา
          ข. มวล เวลา การกระจัด
          ค. เวลา อุณหภูมิ ความเร็ ว
          ง. แรง ความเร็ ว การกระจัด
4. ข้อใดจัดเป็ นปริ มาณเวกเตอร์ ทงหมด ั
          ก. มวล ระยะทาง เวลา
          ข. มวล เวลา การกระจัด
          ค. เวลา อุณหภูมิ ความเร็ ว
          ง. แรง ความเร็ ว การกระจัด
5. ข้อใดใช้ปริ มาณสเกลาร์ ได้ถูกต้อง
          ก. มะละกอมีมวล 2 กิโลกรัม
          ข. วัตถุมีความเร็ ว 0.5 เมตรต่อวินาที
          ค. รถยนต์วงด้วยความเร็ วสู ง
                         ิ
          ง. นักเรี ยนเดินมาโรงเรี ยนเป็ นเส้นตรง
6. ข้อใดใช้ปริ มาณเวกเตอร์ ได้ถูกต้อง
          ก. มะละกอมีมวล 2 กิโลกรัม
          ข. วัตถุมีความเร็ ว 0.5 เมตรต่อวินาที
          ค. รถยนต์วงด้วยความเร็ วสู ง
                       ิ
          ง. นักเรี ยนเดินมาโรงเรี ยนเป็ นเส้นตรง
2

7. ปริ มาณทีใช้วดมวลของวัตถุคือข้อใด
                  ั
         ก. นิวตัน
         ข. มวล
         ค. เมตร
         ง. กิโลกรัม
8. โมล เป็ นหน่วยทีใช้วดปริ มาณใด
                         ั
         ก. มวล
         ข. เวลา
         ค. ปริ มาณสาร
         ง. ความเข้มของแสง
9. ข้อใดเป็ นปริ มาณเวกเตอร์ ทงหมด
                              ั
          ก. ความเร่ ง มวล
          ข. นําหนัก เวลา
          ค. ความเร็ ว การกระจัด
          ง. ระยะทาง อัตราเร็ ว
10. ข้อใดเป็ นปริ มาณสเกลาร์
          ก. อัตราเร็ ว
         ข. ความเร็ ว
          ค. การกระจัด
          ง. แรง
11. เวกเตอร์ ทีบ่งบอกถึงอัตราการเปลียนแปลงตําแหน่งของวัตถุเทียบต่อเวลา หมายถึงข้อใด
          ก. การกระจัด
         ข. ความเร็ ว
          ค. อัตราเร็ ว
          ง. ความเร่ ง
3
12. แรงลัพธ์ในข้อใดมีขนาดมากทีสุ ด
  ก. 4 N                      2N



  ข.    2N                             4N

  ค.       2N                  2N



  ง.      2N                         4N

13. ข้อใดกล่าวผิด
  ก. แรงย่อย คือ แรงหลายๆ แรงมากระทําต่อวัตถุ ก้อนเดียวกัน
                                                           ้
  ข. แรงลัพธ์ คือ ผลรวมของแรงย่อยหลายๆแรง ทีกระทําต่อวัตถุกอนเดียวกัน
  ค. แรงคู่ควบ คือ แรงขนานต่างพวกกันคู่หนึงทีมีขนาดเท่ากัน
  ง. แรงขนาน คือ แรงทีมีทิศทางขนานกัน ต้องมีขนาดเท่ากัน กระทําทีจุดเดียวกัน
14. ข้อใดกล่าวถึงความหมายของแรงได้ถูกต้อง
  ก. สิ งทีทําให้วตถุเคลือนที
                    ั
  ข. สิ งทีทําให้วตถุไม่เคลือนที
                      ั
  ค. สิ งทีทําให้วตถุรักษาสภาพการเคลือนที
                        ั
  ง. สิ งทีทําให้วตถุเปลียนสภาพการเคลือนที
                  ั

ตัวชี วัดข้ อที 2 ทดลองและอธิบายระยะทาง การกระจัด อัตราเร็วและความเร็วในการเคลือนทีของวัตถุ

       ข้ อมูล แดงเดินทางจากบ้านไปทางทิศเหนือ 300 เมตร แล้วเดินเลียวไปทางทิศตะวันตกเป็ น
400 เมตร ใช้เวลาทังสิ น 10 นาที จากข้ อมูล ใช้ ตอบคําถามจากข้ อ 1-3
1. แดงเดินทางได้ระยะทางเท่าไร
       ก. 300 เมตร
       ข. 400 เมตร
       ค. 500 เมตร
       ง. 700 เมตร
4
2. การกระจัดมีค่าเท่ากับเท่าไร
          ก. 300 เมตร
          ข. 400 เมตร
          ค. 500 เมตร
          ง. 700 เมตร
3. แดงเดินจากบ้านไปด้วยความเร็ วเท่าไร
          ก. 0.16 เมตรต่อวินาทีไปทางทิศตะวันตกเฉี ยงเหนื อ
          ข. 0.83 เมตรต่อวินาทีไปทางทิศตะวันตกเฉี ยงเหนื อ
          ค. 1.16 เมตรต่อวินาทีไปทางทิศตะวันตกเฉี ยงเหนื อ
          ง. 1.82 เมตรต่อวินาทีไปทางทิศตะวันตกเฉี ยงเหนื อ
4. อัตราเร็ วในการเดินของแดงมีค่าท่าไร
         ก. 0.16 เมตรต่อวินาที
         ข. 0.82 เมตรต่อวินาที
         ค. 1.16 เมตรต่อวินาที
         ง. 1.82 เมตรต่อวินาที
5. เหตุการณ์ใดเป็ นไปตามกฎการเคลือนทีข้อที 1 ของนิวตัน
          ก. รถแข่งกําลังวิงเข้าโค้งด้วยอัตราเร็ วคงที
          ข. ลิฟต์เคลือนทีลงด้วยอัตราเร็ วคงที
          ค. มะพร้าวร่ วงจากต้น
          ง. การปาเป้ า
6. การกระจัด หมายถึงอะไร
          ก. ระยะทางทีวัดได้ตามการเคลือนทีจริ งๆของวัตถุ
          ข. ระยะทางทีวัตถุเคลือนทีในแนวตรงจากตําแหน่ง
             เริ มต้นไปยังตําแหน่งสุ ดท้าย
          ค. การเดินทางจากทีหนึงไปยังอีกทีหนึง โดยมี
             เส้นทางให้เลือกหลายเส้นทาง
          ง. การเดินทางจากทีหนึงไปยังอีกทีหนึง โดยใช้
             เส้นทางเพียงเส้นเดียว
7. ฟิ ล์มขีรถจักรยานไปทางทิศตะวันออกจากจุด ก ไปยังจุด ข เป็ นระยะทาง 40 เมตร ใช้เวลา 20 วินาที
ข้อใดเป็ นอัตราเร็ วเฉลียและความเร็ วเฉลียของรถจักรยานคันนี
          ก. 2 m/s และ 4 m/s
          ข. 4 m/s และ 2 m/s
          ค. 4 m/s และ 4 m/s
          ง. 2 m/s และ 2 m/s
5
                         ่
8. กล่องใบหนึงวางอยูทีพืนห้อง ก้อยดึงกล่องไปทางซ้ายด้วยแรง 10 นิวตัน แก้มดึงกล่องไปทางขวาด้วย
แรง 20 นิวตัน ข้อใดสรุ ปถูกต้อง
        ก. กล่องเคลือนทีไปทางขวา
         ข. กล่องเคลือนทีไปทางซ้าย
        ค. กล่องหยุดนิง
        ง. กล่องเคลือนทีด้วยความเร็ วคงที
9. การเตะลูกฟุตบอลอัดกําแพง แล้วฟุตบอลกระเด้งกลับมา ใช้กฎการเคลือนทีของนิวตันข้อใด
          ก. ข้อ 1
          ข. ข้อ 2
          ค. ข้อ 3
          ง. ทัง 3 ข้อ
10. เหตุการณ์ใดเกิดจากแรงโน้มถ่วงของโลก
        ก. การเปิ ดหน้าต่าง
        ข. รถยนต์วงบนถนน
                      ิ
         ค. การแล่นเรื อใบ
        ง. นําตก
11. ข้อใดเป็ นการเพิมแรงเสี ยดทาน
        ก. ใส่ นามันหล่อลืน
                 ํ
        ข. เรื อมีรูปร่ างเพรี ยว
        ค. ดอกยางบนยางรถยนต์
        ง. ล้อของรถเข็น
12. ดําขับมอเตอร์ ไชต์จากบ้านมาโรงเรี ยนเป็ นระยะทาง 500 เมตรเป็ นเวลา 25 วินาที ความเร็ วของรถ
มอเตอร์ ไซต์คนนีมีค่าเท่าไร
               ั
        ก. 2 เมตรต่อวินาที
        ข. 20 เมตรต่อวินาที
        ค. 25 เมตรต่อวินาที
        ง. 50 เมตรต่อวินาที
13. อัตราเร็ วในการเคลือนทีของมอเตอร์ ไซต์คนนีมีค่าเท่าไร
                                             ั
        ก. 2 เมตรต่อวินาที
        ข. 20 เมตรต่อวินาที
        ค. 25 เมตรต่อวินาที
        ง. 50 เมตรต่อวินาที
6
ข้ อมูล ใช้ ตอบคําถามจากข้ อ 14-17
        เด็กหญิงนําฝนเดินไปทางทิศตะวันออกเป็ นระยะทาง 40 เมตร แล้วเดินย้อนกลับมาทางทิศ
ตะวันตกเป็ นระยะทาง 30 เมตร โดยใช้เวลาทังหมด 3 วินาที
14. เด็กหญิงนําฝนเดินทางได้ระยะทางเท่าไร
         ก. 10 เมตร
         ข. 40 เมตร
         ค. 50 เมตร
         ง. 70 เมตร
15. การกระจัดมีค่าเท่ากับเท่าไร
         ก. 10 เมตร
         ข. 40 เมตร
         ค. 50 เมตร
         ง. 70 เมตร
16. ความเร็ วในการเดินของนําฝนมีค่าเท่าไร
         ก. 0.27 เมตรต่อวินาที
         ข. 0.33 เมตรต่อวินาที
         ค. 1.27 เมตรต่อวินาที
         ง. 3.33 เมตรต่อวินาที
17. อัตราเร็ วในการเดินของนําฝนมีค่าท่าไร
         ก. 3.33 เมตรต่อวินาที
         ข. 10.33 เมตรต่อวินาที
         ค. 18.33 เมตรต่อวินาที
         ง. 23.33 เมตรต่อวินาที

ข้ อมูล ใช้ ตอบคําถามจากข้ อ 18-19
                                                     ่
         ชายคนหนึงเดินจากตําบล ก ไปยังตําบล ข ซึ งอยูทางทิศเหนื อห่างจากตําบล ก 2 กิโลเมตร
                                        ่
ใช้เวลา 30 นาที แล้วเลียวไปตําบล ค ทีอยูทางทิศตะวันออกและห่างจากตําบล ข 3 กิโลเมตร
เป็ นเวลา 1 ชัวโมง

18. อัตราเร็ วในช่วงจากตําบล ก ถึงตําบล ข มีค่าเท่าไร
        ก. 3 กิโลเมตรต่อชัวโมง
        ข. 4 กิโลเมตรต่อชัวโมง
        ค. 3.5 กิโลเมตรต่อชัวโมง
        ง. 4.5 กิโลเมตรต่อชัวโมง
7
       19. อัตราเร็ วเฉลียตลอดการเดินทางมีค่าเท่าไร
       ก. 3 กิโลเมตรต่อชัวโมง
       ข. 4 กิโลเมตรต่อชัวโมง
       ค. 3.5 กิโลเมตรต่อชัวโมง
       ง. 4.5 กิโลเมตรต่อชัวโมง

ตัวชี วัดที 3 ทดลองและอธิบายอุณหภูมิ การวัดอุณหภูมิ
1. วัดอุณหภูมิทียอดภูเรื อได้ 10 ° C คิดเป็ นกีองศา ฟาเรนไฮต์
           ก. 30 องศาฟาเรนไฮต์
           ข. 40 องศาฟาเรนไฮต์
           ค. 50 องศาฟาเรนไฮต์
           ง. 60 องศาฟาเรนไฮต์
2. อากาศบนยอดดอยอินทนนท์วดอุณหภูมิได้ 2 ° C คิดเป็ นกีเคลวิน
                                   ั
           ก. 273 เคลวิน
            ข. 275 เคลวิน
            ค. 276 เคลวิน
           ง. 278 เคลวิน
                                                               ่
3. ขณะอ่านค่าอุณหภูมิจากเทอร์ มอมิเตอร์ จะต้องให้สายตาของเราอยูในระดับใด
         ก. ระดับเดียวกับของเหลวในเทอร์ มอมิเตอร์
         ข. เหนื อของเหลวในเทอร์ มอมิเตอร์
         ค. ตํากว่าของเหลวในเทอร์ มอมิเตอร์
         ง. เหนื อกระเปาะของเหลวเล็กน้อย
                           ั
4. เทอร์ มอมิเตอร์ ทีใช้กนโดยทัวไป หรื อปรอทวัดไข้ของแพทย์ นิยมบอกหน่วยวัดของอุณหภูมิตาม ข้อใด
            ก. เซลเซี ยส
            ข. เคลวิน
           ค. ฟาเรนไฮต์
           ง. เซ็นติกรัม
                                               ่
5. เทอร์ มอมิเตอร์ วดไข้มีขีดบอกอุณหภูมิอยูระหว่างช่วงใด
                       ั
                         °
           ก. 30 – 50 C
           ข. 35 – 42 ° C
           ค. 37 – 50 ° C
           ง. 0 – 100 ° C
8
6. อุณหภูมิหองเรี ยน 30 ° C คิดเป็ นกีองศาโรเมอร์
             ้
         ก. 24 ° R
         ข. 25 ° R
         ค. 26 ° R
         ง. 27 ° R
7. ข้อใดอธิ บายความหมายของอุณหภูมิได้ถูกต้อง
        ก. ระดับความเย็นทีปรากฏในวัตถุนนๆ        ั
        ข. ระดับความร้อนทีปรากฏในวัตถุนนๆ          ั
                                    ่
        ค. ปริ มาณอากาศเย็นทีอยูในวัตถุนนๆ ั
                                      ่
        ง. ปริ มาณอากาศร้อนทีอยูในวัตถุนนๆ     ั
8. ของเหลวทีนิยมใช้บรรจุในเทอร์ มอมิเตอร์ คือสารใด
        ก. นํา
        ข. นํามัน
        ค. ปรอท
        ง. แอลกอฮอล์
9. เราไม่ควรนําเทอร์ มอมิเตอร์ วดไข้ไปใช้วดอุณหภูมิของนําเดือดเพราะเหตุใด
                                ั            ั
        ก. แก้วทีใช้ทากระเปาะเทอร์ มอมิเตอร์ แบบวัดไข้แตกได้ง่าย
                      ํ
        ข. เทอร์ มอมิเตอร์ แบบวัดไข้มีราคาถูกวัดอุณหภูมิของนําเดือดไม่ได้
        ค. ของเหลวทีใช้ในเทอร์ มอมิเตอร์ แบบวัดไข้วดเป็ นอันตรายต่อการทดลอง
                                                     ั
        ง. เทอร์ มอมิเตอร์ แบบวัดไข้มีช่วงการวัดแคบวัดอุณหภูมิของนําเดือดไม่ได้
10. หน่วยในระบบอังกฤษวัดอุณหภูมิของสารโดยใช้หน่วยใด
        ก. โรเมอร์
        ข. เคลวิน
        ค. เซลเซี ยส
        ง. ฟาเรนไฮต์
11. 300 องศาเคลวินมีค่าเท่ากับกีองศาเซลเซี ยส
        ก. 27 องศาเซลเซี ยส
        ข. 37 องศาเซลเซี ยส
        ค. 47 องศาเซลเซี ยส
        ง. 57 องศาเซลเซี ยส
9
12. 70 องศาเซลเซี ยสมีค่าเท่ากับกีองศาเคลวิน
         ก. 227 องศาเซลเซี ยส
         ข. 243 องศาเซลเซี ยส
         ค. 327 องศาเซลเซี ยส
         ง. 343 องศาเซลเซี ยส
13. ทีห้องปฏิบติการวิทยาศาสตร์ ชนมัธยมศึกษาปี ที 1 วัดอุณหภูมิได้ 68 องศาฟาเรนไฮต์ ถ้าเทียบเป็ นองศา
                 ั                 ั
เซลเซี ยสจะมีอุณหภูมิกีองศา
         ก. 10 องศาเซลเซี ยส
         ข. 20 องศาเซลเซี ยส
         ค. 30 องศาเซลเซี ยส
         ง. 40 องศาเซลเซี ยส
14. ในขณะทีนําเดือดอุณหภูมิของนําเดือดและไอนําเดือดมีค่าอย่างไร
         ก. อุณหภูมิของนําเดือดและไอนําเดือดมีค่าเท่ากัน
         ข. อุณหภูมิของนําเดือดตํากว่าอุณหภูมิของไอนําเดือด
         ค. อุณหภูมิของนําเดือดสู งกว่าอุณหภูมิของไอนําเดือด
         ง. สรุ ปไม่ได้เพราะต้องทําการทดลองดู

ตัวชี วัดที 4 สั งเกตและอธิบายการถ่ ายโอนความร้ อนและนําความรู้ ไปใช้ ประโยชน์
1. ถ้านักเรี ยนใช้ชอนโลหะแช่ในนําร้อนทิงไว้สักครู่ นกเรี ยนจับทีด้ามช้อนจะรู ้สึกร้อนเพราะสาเหตุใด
                    ้                               ั
          ก. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการนําความร้อน
          ข. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการพาความร้อน
          ค. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการแผ่รังสี ความร้อน
          ง. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการถ่ายทอดพลังงานความร้อน
2. ถ้านักเรี ยนเอามือไปอังไว้เหนื อเปลวไฟความร้อนจากไฟมาถึงนักเรี ยนได้โดยวิธีใด
          ก. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการนําความร้อน
          ข. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการพาความร้อน
          ค. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการแผ่รังสี ความร้อน
          ง. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการถ่ายทอดพลังงานความร้อน
                                ่
3. การทีเรารู ้สึกร้อนเมือยืนอยูกลางแสงแดดเพราะมีการถ่ายโอนพลังงานความร้อนมาจากดวงอาทิตย์ดวยวิธีการใด
                                                                                                   ้
          ก. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการนําความร้อน
          ข. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการพาความร้อน
          ค. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการแผ่รังสี ความร้อน
          ง. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการถ่ายทอดพลังงานความร้อน
10
4. ข้อใดเป็ นการถ่ายโอนพลังงานความร้อนแบบการนําความร้อน
        ก. กาต้มนํา
        ข. ความร้อนจากดวงอาทิตย์
        ค. การเกิดลมบกลมทะเล
        ง. ความร้อนจากแผ่นอลูมิเนี ยมฟอยด์ทีใช้ห่ออาหาร
5. ข้อใดเป็ นการถ่ายโอนพลังงานความร้อนแบบการพาความร้อน
        ก. กาต้มนํา
        ข. ความร้อนจากดวงอาทิตย์
        ค. การเกิดลมบกลมทะเล
        ง. ความร้อนจากแผ่นอลูมิเนี ยมฟอยด์ทีใช้ห่ออาหาร
6. ข้อใดเป็ นการถ่ายโอนพลังงานความร้อนโดยการแผ่รังสี
        ก. การได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์
        ข. การได้รับความร้อนจากการนังผิงไฟ
        ค. การได้รับความร้อนจากทัพพีทีจุ่มในนําร้อน
        ง. ถูกทังข้อ ก และ ข้อ ข
7. การถ่ายโอนพลังงานความร้อนโดยการพาความร้อนเกิดขึนในบริ เวณทีเป็ นสุ ญญากาศได้หรื อไม่เพราะเหตุใด
        ก. ได้ เพราะความร้อนของอากาศสามารถเคลือนทีไปได้ทุกที
        ข. ไม่ได้ เพราะบริ เวณทีเป็ นสู ญญากาศอากาศเคลือนทีไม่ได้
        ค. ได้ เพราะบริ เวณทีเป็ นสู ญญากาศสามารถพาความร้อนได้ดีทีสุ ด
        ง. ไม่ได้ เพราะบริ เวณทีเป็ นสู ญญากาศไม่มีสารใดทีจะเป็ นตัวกลางทีจะพาความร้อนได้
8. ข้อใดไม่ใช่วธีการถ่ายโอนพลังงานความร้อน
               ิ
        ก. การนําความร้อน
        ข. การพาความร้อน
        ค. การคายความร้อน
        ง. การแผ่รังสี ความร้อน
9. การถ่ายโอนพลังงานความร้อนแบบใดทีต้องส่ งผ่านความร้อนไปตามเนือของตัวกลาง แต่ตวกลางไม่
                                                                                      ั
เคลือนทีไปด้วย
        ก. การนําความร้อน
        ข. การพาความร้อน
         ค. การคายความร้อน
        ง. การแผ่รังสี ความร้อน
11
10. “ ในวันทีอากาศร้อน ฉันชอบอาบนําหลายๆครัง ทําให้ฉนรู ้สึกเย็นสบายมากเลย ” จากคํากล่าวนี
                                                        ั
เกียวข้องกับการถ่ายโอนความร้อนด้วยวิธีใด
         ก. การนําความร้อน
         ข. การพาความร้อน
         ค. การคายความร้อน
          ง. การแผ่รังสี ความร้อน
                                               ่
11. เพราะเหตุใดประเทศไทย หรื อประเทศทีอยูในสภาพอากาศร้อนจึงเหมาะสําหรับการสร้างบ้านทีมีใต้ถุน
สู ง หลังคาทรงสู ง และมีช่องระบายอากาศ
         ก. อากาศช่วยพาความร้อนออกไป
         ข. อากาศช่วยนําความร้อนออกไป
         ค. อากาศช่วยนําและพาความร้อนออกไป
         ง. อากาศช่วยนําความร้อนเข้ามาพาความร้อนออกไป
12. ข้อใดไม่เกียวข้องกับการพาความร้อน
          ก. อาบนําเมืออากาศร้อน
         ข. จับด้ามกระทะบริ เวณทีเป็ นพลาสติก
         ค. เอาผ้าชุบนําเช็ดตัวเมือเป็ นไข้
         ง. เป่ าอาหารทีร้อนก่อนรับประทาน
13. เมือเอามือไปอังข้างๆเตาไฟจะรู ้สึกร้อน ความร้อนจากเตาไฟจะมาถึงมือเราโดยวิธีใด
         ก. การนําความร้อน
         ข. การพาความร้อน
         ค. การแผ่รังสี ความร้อน
         ง. การพาความร้อนและการแผ่รังสี ความร้อน
14. เพราะเหตุใดจึงนิยมใช้อะลูมิเนียมมาผลิตเป็ นหม้อสําหรับประกอบอาหาร
         ก. เป็ นวัตถุทีนําความร้อนได้ดี
         ข. เป็ นวัตถุทีพาความร้อนได้ดี
         ค. เป็ นวัตถุทีนําและพาความร้อนได้ดี
         ง. เป็ นวัตถุทีแข็งแรง ทนทาน ไม่เป็ นสนิม

ตัวชี วัดข้ อที 5 อธิบายการดูดกลืน การคายความร้ อนโดยการแผ่ รังสี และการนําความรู้ ไปใช้ ประโยชน์
1. ถ้านักเรี ยนสวมเสื อผ้าสี อ่อนอยูกลางแสงแดดนักเรี ยนจะรู ้สึกร้อนน้อยกว่าสวมเสื อผ้าสี เข้มเป็ นเพราะเหตุใด
                                    ่
          ก. วัตถุทีมีสีอ่อนจะดูดกลืนแสงได้มากกว่าวัตถุสีเข้ม
          ข. วัตถุทีมีสีอ่อนจะดูดกลืนแสงได้นอยกว่าวัตถุสีเข้ม
                                            ้
          ค. วัตถุทีมีสีอ่อนจะคายความร้อนได้นอยกว่าวัตถุสีเข้ม
                                              ้
          ง. วัตถุทีมีสีอ่อนจะคายความร้อนได้มากกว่าวัตถุสีเข้ม
12
2. ชาวนาควรใส่ เสื อผ้าทีมีสีและลักษณะอย่างไรจึงจะทําให้ไม่รู้สึกร้อนมากเมือออกไปทํานา
         ก. สี เข้ม เนือบาง
         ข. สี เข้ม เนือหนา
         ค. สี อ่อน เนือหนา
         ง. สี อ่อน เนือบาง
3. รถบรรทุกนํามันนิยมเคลือบผิวหน้าด้วยสี ขาวเพราะสาเหตุใด
         ก. ช่วยป้ องกันการระเหยของนํามัน
         ข. ช่วยลดการดูดกลืนรังสี จากดวงอาทิตย์
         ค. ช่วยสะท้อนรังสี จากดวงอาทิตย์
         ง. ถูกทังข้อ ข และข้อ ค
4. โลกได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์โดยวิธีใด
         ก. การนําความร้อน
         ข. การพาความร้อน
         ค. การแผ่รังสี ความร้อน
         ง. การคายความร้อน
5. ถ้านักเรี ยนสวมเสื อสี ดาแล้วยืนกลางแดดจะรู ้สึกร้อนกว่าสวมเสื อสี อืน เพราะเหตุใด
                           ํ
         ก. สี ดาดูดความร้อนได้ดี
                    ํ
         ข. สี ดาคายความร้อนได้ดี
                      ํ
         ค. สี ดาคายความร้อนได้ดี
                  ํ
        ง. สี ดาส่ งผ่านความร้อนได้ดี
                ํ
                        ่             ่
6. บ้านพักทีอยูอาศัยของประเทศทีอยูในเขตร้อน นิยมทาสี ตวบ้านด้วยสี ขาว เพราะเหตุใด
                                                            ั
         ก. ทําให้สว่าง สดใส ดูสะอาดตา
          ข. สี ขาวคายความร้อนได้เร็ วกว่าสี อืนๆ
          ค. สี ขาวดูดกลืนความร้อนน้อยกว่าสี อืนๆ
          ง. เป็ นฉนวนความร้อนทําให้บานรู ้สึกเย็น
                                        ้
7. ข้อใดถูกต้องเกียวกับการดูดกลืนและคายความร้อนของวัตถุ
          ก. วัตถุทุกชนิดจะดูดกลืนความร้อนได้เท่ากัน
          ข. วัตถุทุกชนิดจะคายความร้อนได้เท่ากัน
          ค. วัตถุทุกชนิดจะดูดกลืนและคายความร้อนได้ไม่เท่ากัน
          ง. วัตถุทุกชนิดดูดกลืนความร้อนได้เท่ากัน แต่จะคายความร้อนได้ไม่เท่ากัน
13
8. ในหน้าหนาวควรเลือกใส่ เสื อผ้าทีมีสีอย่างไรจึงจะช่วยดูดกลืนความร้อนให้ร่างกายอบอุ่น
         ก. เหลือง ฟ้ า
          ข. ชมพู ส้ม
         ค. นําตาล เขียวอ่อน
         ง. ดํา นําเงินเข้ม
9. เพราะเหตุใดจึงนิยมติดเครื องปรับอากาศไว้บริ เวณส่ วนบนของห้องหรื อติดกับเพดานห้อง
         ก. เป็ นบริ เวณทีเหมาะสมทีสุ ด
         ข. อากาศร้อนสามารถระบายออกจากห้องได้อย่างรวดเร็ ว
         ค. อากาศร้อนมีความหนาแน่นน้อยจะลอยขึนอากาศเย็นจะลอยตําลงมา
         ง. อากาศเย็นมีความหนาแน่นน้อยจะลอยขึนอากาศร้อนจะลอยตําลงมา
10. ถ้านักเรี ยนสวมเสื อผ้าสี อ่อนอยูกลางแสงแดดนักเรี ยนจะรู ้สึกร้อนน้อยกว่าสวมเสื อผ้าสี เข้มเป็ นเพราะเหตุใด
                                     ่
         ก. วัตถุทีมีสีอ่อนจะดูดกลืนแสงได้มากกว่าวัตถุสีเข้ม
         ข. วัตถุทีมีสีอ่อนจะดูดกลืนแสงได้นอยกว่าวัตถุสีเข้ม
                                             ้
         ค. วัตถุทีมีสีอ่อนจะคายความร้อนได้นอยกว่าวัตถุสีเข้ม
                                               ้
         ง. วัตถุทีมีสีอ่อนจะคายความร้อนได้มากกว่าวัตถุสีเข้ม
11. อาคารบางอาคารใช้แก้วประกอบเป็ นผนังของอาคารเพือประโยชน์ในด้านใด
         ก. สะท้อนความร้อนออกจากตึกเพราะแก้วเป็ นตัวนําความร้อนทีไม่ดี
         ข. รับและคายความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้ดีทีสุ ดจึงประหยัดพลังงานไฟฟ้ า
         ค. สะท้อนความร้อนภายในตึกได้ดีจึงช่วยทําให้อุณหภูมิในห้องเย็นสบาย
         ง. ป้ องกันการคายความร้อนอกจากตึกจึงทําให้อุณหภูมิภายในตึกสมําเสมอ

ตัวชี วัดข้ อที 6 อธิบายสมดุลความร้ อนและผลของความร้ อนต่ อการขยายตัวของสารและนําความรู้ ไปใช้ ใน
ชี วตประจําวัน
    ิ
1. ข้อใดแสดงถึงสมดุลความร้อนได้ถูกต้อง
          ก. การให้ความร้อนแก่วตถุ A และวัตถุ B จนกระทังอุณหภูมิของวัตถุ A เท่ากับวัตถุ B
                                  ั
          ข. การถ่ายเทความร้อนออกจากวัตถุ A และวัตถุ B จนกระทังวัตถุทงสองมีอุณหภูมิเท่ากัน
                                                                           ั
          ค. การถ่ายเทความร้อนแก่วตถุ A และวัตถุ B จนกระทังวัตถุทงสองมีพลังงานความร้อนเท่ากัน
                                      ั                             ั
          ง. การทีวัตถุ A มีอุณหภูมิสูงกว่าวัตถุ B ถ่ายเทความร้อนจากวัตถุ A ไปยังวัตถุ B จนกระทังวัตถุ
             ทังสอง มีอุณหภูมิเท่ากัน
2. รถยนต์ทีแล่นบนถนนทีร้อนจัดนานๆยางรถยนต์อาจจะระเบิดได้เป็ นเพราะสาเหตุใด
          ก. การแข็งตัวของเนือยางเมือได้รับความร้อน
          ข. การหดตัวของเนื อยางเมือได้รับความร้อน
          ค. การอ่อนตัวของเนือยางเมือได้รับความร้อน
          ง. การขยายตัวของเนือยางเมือได้รับความร้อน
14
3. ข้อใดไม่ใช่การนําหลักความรู ้เกียวกับการขยายตัวของวัตถุมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวัน
        ก. การสร้างรางรถไฟ
        ข. การใช้ห่วงรัดสิ งของ
        ค. การขึงสายไฟระหว่างสายไฟ
        ง. การใช้พลาสติกทําด้ามทัพพี
4. เพราะเหตุใดเมือเทนําเดือดลงในแก้วหนาๆ แล้ว แก้วจึงเกิดการแตกร้าวขึน
        ก. ด้านในของแก้วหดตัว ขณะทีด้านนอกของแก้วพยายามขยายตัว
        ข. ด้านในของแก้วพยายามขยายตัว ขณะทีด้านนอกไม่เปลียนแปลง
         ค. ด้านในและด้านนอกของแก้วหดตัวพร้อมกัน
         ง. ด้านในและด้านนอกของแก้วขยายตัวพร้อมกัน
5. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกียวกับสมดุลความร้อน
        ก. เกิดขึนเมือวัตถุ 2 ชนิดมีอุณหภูมิแตกต่างกัน
        ข. ต้องเกิดสมดุลความร้อนก่อนแล้วจึงเกิดการถ่ายโอนความร้อน
        ค. เมือเกิดสมดุลความร้อนวัตถุทง 2 ชนิดจะมีอุณหภูมิเท่ากัน
                                         ั
        ง. การเกิดสมดุลความร้อนเกียวข้องกับการดูดและการคายความร้อนของวัตถุ
6. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกียวกับการขยายตัวของวัตถุเมือได้รับความร้อน
        ก. ของเหลวขยายตัวได้นอยกว่าของแข็ง
                                     ้
        ข. แก๊สขยายตัวได้ดีทีสุ ด
        ค. ของแข็งขยายตัวได้นอยทีสุ ด
                                 ้
        ง. ของเหลวขยายตัวได้นอยกว่าแก๊ส
                                   ้
7. ในข้อใดเป็ นการนําหลักการของผลของความร้อนต่อการขยายตัวของวัตถุมาใช้ได้อย่าง
ปลอดภัยและเกิดประโยชน์อย่างชัดเจน
        ก. การสร้างเขือนกันนํา
        ข. การสร้างรางรถไฟทีต้องเว้นช่องระยะห่างของรางแต่ละเส้น
        ค. การสร้างตึกหรื ออาคารสู งๆ
        ง. การสร้างพาหนะ ยานยนต์ในการขับขี
8. จากความรู ้เรื องการขยายตัวของวัตถุเมือได้รับความร้อน สามารถนําไปใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน
ยกเว้นข้อใด
         ก. การทําเทอร์ โมสตัท
         ข. การสร้างรางรถไฟ
         ค. การสร้างถนนคอนกรี ต
        ง. การสร้างแผงเซลล์สุริยะ
15
9. ถ้าเทนําร้อนใส่ แก้วตังวางทิงไว้ เมือเวลาผ่านไปนําในแก้วจะมีอุณหภูมิเท่ากับอากาศ ซึ งจะเกียวข้อง
กับสิ งใด
          ก. การนําความร้อน
          ข. การพาความร้อน
            ค. สมดุลความร้อน
            ง. การแผ่รังสี ความร้อน
10. ข้อใดเป็ นการขยายตัวของวัตถุแบบเชิงเส้น
          ก. การขยายตัวของสายไฟฟ้ า
          ข. การขยายตัวของแผ่นคอนกรี ต
          ค. การขยายตัวของห่วงรัดของ
          ง. การขยายตัวของทางวิงสนามบิน
11. การสร้างตัวควบคุมอุณหภูมิสาหรับควบคุมกระแสไฟฟ้ าในเตารี ดเป็ นการนําหลักการใดมาใช้
                                    ํ
ประโยชน์
          ก. การนําความร้อน
          ข. การพาความร้อน
          ค. สมดุลความร้อน
          ง. สมบัติการขยายตัวของวัตถุ
12. การวางรางรถไฟต้องเว้นระยะห่างของรอยต่อแต่ละท่อนเพืออะไร
          ก. ความสะดวกในการเปลียนราง
          ข. ความสะดวกในการวางแนวรางให้ตรง
          ค. ป้ องการการขยายตัวของรางเมือได้รับความร้อน
          ง. ป้ องกันไม่ให้คนขับรถไฟเกิดการหลับใน
ตัวชี วัดข้ อที 7 สื บค้ นและอธิบายองค์ ประกอบและการแบ่ งชั นบรรยากาศทีปกคลุมผิวโลก
1. ส่ วนประกอบใดของอากาศแห้งทีมีปริ มาณมากทีสุ ดในบรรยากาศ
          ก. แก๊สอาร์ กอน
          ข. แก๊สไนโตรเจน
          ค. แก๊สออกซิ เจน
          ง. แก๊สคาร์ บอนไดออกไซด์
2. สมชาย นํานําแข็งใส่ แก้ววางทิงไว้สักครู่ แล้วสังเกตพบว่ามีหยดนําเกาะอยูขางแก้วเป็ นจํานวนมาก
                                                                          ่ ้
นักเรี ยนคิดว่าสมชายกําลังทําการทดลองเกียวกับเรื องใด
          ก. การละลายของนําแข็ง
          ข. ประโยชน์ของบรรยากาศ
          ค. อากาศมีไอนําเป็ นองค์ประกอบ
          ง. การกลันตัวของหยดนําในอากาศ
16
3. บรรยากาศชันใดทีมีความสําคัญต่อการดํารงชีวตของสิ งมีชีวตบนโลกมากทีสุ ด
                                                   ิ       ิ
         ก. มีโซสเฟี ยร์
         ข. โทรโพสเฟี ยร์
         ค. เอกโซสเฟี ยร์
         ง. สตราโทสฟี ยร์
4. เพราะเหตุใดถ้ามีวตถุจากนอกโลก เช่นอุกกาบาต เคลือนทีเข้ามาสู่ แรงดึงดูดของโลกจะเกิดการเผาไหม้
                      ั
ในบรรยากาศชันมีโซสเฟี ยร์
         ก. มีอุณหภูมิสูงทําให้เกิดการเสี ยดสี ลุกไหม้ได้
         ข. มีแก๊สโอโซนปริ มาณมากพอทีสามารถทําให้เกิดการลุกไหม้
         ค. มีแก๊สออกซิ เจนในปริ มาณมากพอทีสามารถทําให้เกิดการลุกไหม้
         ง. เป็ นชันบรรยากาศทีมีปริ มาณไอนํามากทําให้เกิดการเสี ยดสี ลุกไหม้ได้
5. แก๊สชนิดใดต่อไปนี พบในส่ วนผสมของอากาศน้ อยที สุ ด
         ก. อาร์ กอน
         ข. ออกซิ เจน
         ค. ไนโตรเจน
         ง. คาร์ บอนไดออกไซด์
6. บรรยากาศชันใดทีมีการเปลียนแปลงของอากาศมากทีสุ ด
         ก. มีโซสเฟี ยร์
         ข. โทรโพสเฟี ยร์
         ค. เทอร์ โมสเฟี ยร์
         ง. สตราโตสเฟี ยร์
7. สิ งทีทําให้บรรยากาศแปรปรวนมากทีสุ ดคือข้อใด
          ก. ไอนํา
         ข. ฝุ่ นละอองในอากาศ
         ค. ปริ มาณแก๊สออกซิ เจน
         ง. รังสี จากดวงอาทิตย์
8. บรรยากาศชันใดทําหน้าทีช่วยสะท้อนคลืนวิทยุกลับมายังผิวโลก
         ก. สตราโตสเฟี ยร์
         ข. โทรโพสเฟี ยร์
          ค. เอกโซสเฟี ยร์
         ง. ไอโอโนสเฟี ยร์
17
9. ถ้าโลกของเราไม่มีบรรยากาศห่อหุ ม โลกจะมีลกษณะตามข้อใด
                                        ้       ั
        ก. ไม่มีแสงแดด
        ข. โลกจะมืดตลอดเวลา
         ค. ลมพัดแรงจัดตลอดเวลา
        ง. กลางวันร้อนจัด กลางคืนหนาวจัด
10. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกียวกับบรรยากาศชันโทรโพสเฟี ยร์
                                    ่
        ก. นักบินจะขับเครื องบินอยูในบรรยากาศชันนี
        ข. เป็ นชันบรรยากาศทีมีผลต่อการดํารงชี วตประจําวันของมนุษย์มากทีสุ ด
                                                  ิ
        ค. เป็ นชันบรรยากาศทีอากาศมีความหนาแน่นมากทีสุ ด
        ง. นักอุตุนิยมวิทยานําข้อมูลจากบรรยากาศชันนีมาใช้ในการพยากรณ์อากาศ
                     ่
11. แก๊สโอโซนมีอยูในบรรยากาศชันใด
         ก. มีโซสเฟี ยร์
         ข. เอกโซสเฟี ยร์
         ค. สตราโตสเฟี ยร์
         ง. โทรโพสเฟี ยร์
12. ชันบรรยากาศของโลกไม่ฟุ้งกระจายออกไปสู่ อวกาศ เพราะเหตุใด
         ก. ชันโอโซนกันไว้
         ข. แรงดึงดูดของโลก
        ค. แรงผลักจากดวงอาทิตย์
        ง. ชันคาร์ บอนไดออกไซด์กนไว้  ั
                ่           ่
13. อากาศทีอยูรอบตัวเราอยูในสถานะใด
        ก. แก๊ส
        ข. ของแข็ง
         ค. ของเหลว
        ง. สารแขวนลอย
14. บรรยากาศชันใดทีมีอุณหภูมิสูงทีสุ ด
        ก. โทรโพสเฟี ยร์
        ข. มีโซสเฟี ยร์
         ค. สตราโตสเฟี ยร์
        ง. เทอร์ โมสเฟี ยร์
18
15. ข้อใดไม่ ใช่ ประโยชน์ของบรรยากาศ
         ก. ช่วยในการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์
        ข. ช่วยปรับอุณหภูมิของโลกให้เหมาะสมกับสิ งมีชีวต ิ
        ค. ช่วยดูดกลืนรังสี ต่างๆไม่ให้ผานมายังโลกมากเกินไป
                                        ่
        ง. ช่วยเสี ยดสี วตถุนอกโลกทําให้ลุกไหม้หมดหรื อมีขนาดเล็กลงก่อนมาถึงผิวโลก
                         ั
16. บรรยากาศชันสตราโตสเฟี ยร์ มีความสําคัญต่อสิ งมีชีวตบนโลกอย่างไร
                                                       ิ
        ก. มีปรากฏการณ์ต่างๆเช่น เมฆ หมอก ฝน
        ข. ช่วยสะท้อนคลืนวิทยุมายังสถานีบนพืนโลก
        ค. มีแก๊สโอโซนทีช่วยดูดกลืนรังสี อลตราไวโอเลต
                                           ั
        ง. ช่วยป้ องกันฝุ่ นละอองและสิ งแปลกปลอมทีมาจากนอกโลก
17. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องเกียวกับบรรยากาศชันไอโอโนสเฟี ยร์
        ก. อุณหภูมิลดลงตามระดับความสู งทีเพิมขึน
        ข. มีความหนาวเย็นของบรรยากาศมากทีสุ ด
        ค. มีแก๊สไฮโดรเจนและแก๊สฮีเลียมเป็ นส่ วนใหญ่
        ง. โมเลกุลของแก๊สแตกตัวเป็ นไอออนสะท้อนคลืนวิทยุได้

ตัวชี วัดข้ อที 8 ทดลองและอธิบายความสั มพันธ์ ระหว่ างอุณหภูมิ ความชื นและความกดอากาศทีมีผลต่ อ
ปรากฏการณ์ ทางลมฟาอากาศ
                      ้
1. ในตอนกลางคืนอากาศเหนือพืนนําทะเลจะมีอุณหภูมิสูงกว่าอากาศเหนื อพืนดินเนื องจากสาเหตุใด
          ก. นําคายความร้อนได้ชากว่าดิน
                                    ้
          ข. นําคายความร้อนได้เร็ วกว่าดิน
          ค. นําดูดความร้อนได้ชากว่าดิน
                                  ้
          ง. นําดูดความร้อนได้เร็ วกว่าดิน
                                               ่ ั
2. การทีตากผ้าไว้แล้วผ้าแห้งเร็ วหรื อช้าขึนอยูกบสมบัติใดของอากาศ
          ก. ความกดอากาศ
          ข. ความชืนของอากาศ
          ค. อุณหภูมิของอากาศ
          ง. ความหนาแน่นของอากาศ
3. ในการทดลองพบว่า ปริ มาณของไอนําในอากาศในภาชนะทีปิ ดสนิทใบหนึงมีมวล 50 กรัมถ้าภาชนะ
ใบนีมีปริ มาตร 0.5 ลูกบาศก์เมตร ความชืนสัมบูรณ์ของอากาศในภาชนะนีมีค่าเท่าไร
         ก. 1 กรัม/ลูกบาศก์เมตร
          ข. 5 กรัม/ลูกบาศก์เมตร
          ค. 10 กรัม/ลูกบาศก์เมตร
          ง. 100 กรัม/ลูกบาศก์เมตร
19
4. ณ ห้องปฏิบติการวิทยาศาสตร์ ชนมัธยมศึกษาปี ที 1 อากาศมีไอนําจริ ง 120 กรัม/ลูกบาศก์เมตร ถ้าใน
                 ั                  ั
ขณะนันอากาศอิมตัวด้วยไอนํา 200 กรัม/ลูกบาศก์เมตร ความชืนสัมพัทธ์ของอากาศมีค่าเท่าไร
         ก. 40 กรัม/ลูกบาศก์เมตร
         ข. 50 กรัม/ลูกบาศก์เมตร
         ค. 60 กรัม/ลูกบาศก์เมตร
         ง. 70 กรัม/ลูกบาศก์เมตร
5. เครื องบินลําหนึงบินอยูเ่ หนือนําทะเล วัดค่าความกดอากาศได้ 700 มิลลิเมตรปรอท อยากทราบว่า
เครื องบินลํานีบินเหนื อระดับนําทะเลกีเมตร
         ก. 60 เมตร
         ข. 660 เมตร
         ค. 700 เมตร
         ง. 760 เมตร

ตัวชี วัดข้ อที 9 สั งเกต วิเคราะห์ และอภิปรายการเกิดปรากฏการณ์ ทางลมฟาอากาศทีมีผลต่ อมนุษย์
                                                                      ้
                                                                        ่ ิ
1. ละอองนําขนาดเล็กทีเกิดจากการเย็นตัวของอากาศชืนทีลอยขึนสู งลอยอยูใกล้ผวโลกเรี ยกว่าอะไร
          ก. ฝน
          ข. เมฆ
          ค. หิ มะ
          ง. หมอก
2. ละอองนําในอากาศรวมตัวกันเป็ นหยดนําขนาดใหญ่มีนาหนักมากจนอากาศไม่สามารถอุมไว้ได้ตกลงมา
                                                         ํ                           ้
ผ่านอากาศเย็นจัดรวมตัวกันกลายเป็ นเกล็ดของแข็งบนพืนดินเรี ยกว่าอะไร
          ก. ฝน
          ข. เมฆ
          ค. หิ มะ
          ง. ลูกเห็บ

3. การเคลือนทีของอากาศจากบริ เวณหนึงไปยังอีกบริ เวณหนึงเนื องจากอุณหภูมิของอากาศในสองบริ เวณ
แตกต่างกันทําให้เกิดปรากฏการณ์ในข้อใด
        ก. เกิดฝน
        ข. เกิดลม
        ค. เกิดพายุ
        ง. เกิดลูกเห็บ
20
คําชี แจง ใช้ขอมูลต่อไปนี ตอบคําถามข้อ 4-5
               ้
                           ตารางแสดงการเปลียนแปลงสภาพอากาศในรอบ 1 วัน
           เวลา              08.00     10.00       12.00     14.00     16.00        18.00
         (นาฬิ กา)
         อุณหภูมิ               28      31          33        34         31           29
      (องศาเซลเซียส)
4. จากข้อมูลเวลาใดทีอากาศมีอุณหภูมิสูงทีสุ ด
         ก. เวลา 10.00 นาฬิกา
         ข. เวลา 12.00 นาฬิกา
         ค. เวลา 14.00 นาฬิกา
         ง. เวลา 16.00 นาฬิกา
5. จากข้อมูล นักเรี ยนจะสรุ ปเกียวกับการเปลียนแปลงสภาพอากาศในรอบ 1 วันได้อย่างไร
         ก. อากาศในรอบหนึงวันเปลียนแปลงไม่มากนัก
         ข. อากาศในรอบหนึงวันรวมกันแล้วมากกว่าร้อยองศาเซลเซี ยส
         ค. อากาศในรอบหนึงวันในตอนเช้าอุณหภูมิจะค่อยๆสู งขึนและจะลดตําลงเรื อยๆ เมือเวลาเย็น
         ง. อากาศในรอบหนึงวันเปลียนแปลงไม่แน่นอนอาจสู งขึนในตอนเช้าหรื อลดลงใน
              ตอนเย็น หรื ออาจลดลงในตอนเช้าและเพิมขึนในตอนเย็น
6. ถ้านักเรี ยนต้องการทราบอุณหภูมิสูงสุ ดและตําสุ ดของอากาศในรอบหนึงวันนักเรี ยนจะเลือกใช้เครื องมือ
ใดในการวัดอุณหภูมิ
         ก. เทอร์ มอกราฟ
         ข. เทอร์ มอมิเตอร์ แบบปรอท
         ค. เทอร์ มอมิเตอร์ แบบวัดไข้
         ง. เทอร์ มอมิเตอร์ แบบเกณฑ์สูงสุ ดตําสุ ด
7. ไฮโกรมิเตอร์ แบบเส้นผมใช้วดปริ มาณใดและใช้หลักการตามข้อใด
                                   ั
         ก. วัดความชืนของอากาศและใช้หลักการอากาศชืนเส้นผมหดตัวอากาศแห้งเส้นผมยืดตัว
         ข. วัดความชืนของอากาศและใช้หลักการอากาศชืนเส้นผมยืดตัว อากาศแห้งเส้นผมหดตัว
         ค. วัดอุณหภูมิของอากาศและใช้หลักการอุณหภูมิสูงเส้นผมหดตัวอุณหภูมิตาเส้นผมยืดตัว
                                                                                ํ
         ง. วัดอุณหภูมิของอากาศและใช้หลักการอุณหภูมิสูงเส้นผมยืดตัวอุณหภูมิตาเส้นผมหดตัว
                                                                              ํ
8. บริ เวณใดควรมีอุณหภูมิตาทีสุ ด
                              ํ
         ก. ชายทะเล
         ข. ภายในบ้าน
          ค. บนอาคารสู ง
         ง. บนยอดเขาสู ง
21
9. ถ้าร่ างกายรู ้สึกสบายๆ และสดชืน ความชืนสัมพัทธ์ควรมีค่าเท่าใด
           ก. 60 %
           ข. 70 %
           ค. 80 %
          ง. 90 %
10. ทีอุณหภูมิ 30 ° C มีไอนําอยูจริ งในอากาศ 20 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถ้าอากาศอิมตัวด้วยไอนํา 25 กรัมต่อ
                                ่
ลูกบาศก์เมตร อากาศมีความชืนสัมพัทธ์เท่าไร
          ก. 50 %
           ข. 60 %
          ค. 70 %
          ง. 80 %
11. อากาศในห้องเรี ยนห้องหนึง มีอุณหภูมิ 25 ° C มีปริ มาตร 50 ลูกบาศก์เมตร มีไอนําอยู่ 250 กรัม
อากาศในห้องนีจะมีความชืนสัมบูรณ์เท่าใด
          ก. 4 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร
          ข. 5 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร
          ค. 6 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร
           ง. 7 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร
12. เครื องมือทีใช้วดความชื นของอากาศคือข้อใด
                      ั
          ก. บารอมิเตอร์
           ข. ไฮกรอมิเตอร์
          ค. เทอร์ มอมิเตอร์
          ง. แอนิ รอยด์บารอมิเตอร์
                                          ่
13. นักกระโดดร่ มดิงพสุ ธาขณะลอยตําอยูในอากาศทีตําแหน่งหนึง อ่านความดันบรรยากาศได้ 500
                                     ่
มิลลิเมตรของปรอท ขณะนันเขาอยูสูงจากระดับนําทะเลกีเมตร
          ก. 560 เมตร
          ข. 2,860 เมตร
          ค. 5,400 เมตร
           ง. 6,160 เมตร
14. ข้อใดคือความหมายของความดัน 1 บรรยากาศ
          ก. ความดันอากาศทีดันปรอทให้อยูสูง 76 mm ่
                                                ่
          ข. ความดันอากาศทีดันปรอทให้อยูสูง 76 cm
                                              ่
          ค. ความดันอากาศทีดันปรอทให้อยูสูง 760 cm
                                            ่
          ง. ความดันอากาศทีดันปรอทให้อยูสูง 760 m
22
ตัวชี วัดข้ อที 10 สื บค้ นวิเคราะห์ และแปลความหมายข้ อมูลจากการพยากรณ์ อากาศ
1. ในแผนทีอากาศ อักษร H และ อักษร L แสดงถึงอะไร
          ก. บริ เวณทีมีอุณหภูมิสูงและบริ เวณทีมีอุณหภูมิตา
                                                          ํ
          ข. บริ เวณทีมีความชืนสู งและบริ เวณทีมีความชืนตํา
          ค. บริ เวณทีมีความเร็ วลมสู งและบริ เวณทีมีความเร็ วลมตํา
          ง. บริ เวณทีมีความกดอากาศสู งและบริ เวณทีมีความกดอากาศตํา
2. ในวันหนึงมีการพยากรณ์อากาศว่า อากาศเย็น ข้อใดแปลความหมายของการพยากรณ์ได้ถูกต้อง
          ก. อากาศมีอุณหภูมิตากว่า 15.9 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 8 องศาเซลเซี ยส
                                     ํ
          ข. อากาศมีอุณหภูมิตงแต่ 22.9 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 18 องศาเซลเซี ยส
                                   ั
          ค. อากาศมีอุณหภูมิตากว่า 8.0 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 0 องศาเซลเซี ยส
                                       ํ
          ง. อากาศมีอุณหภูมิตงแต่ 25.0 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 18 องศาเซลเซี ยส
                                 ั
3. เมฆสี ขาวเป็ นปุยคล้ายใยไหม มีลกษณะเป็ นเส้นต่อเนื องกันคล้ายขนนก คือเมฆชนิดใด
                                         ั
          ก. คิวมูลสั
          ข. เซอร์ รัส
          ค. สเตรตัส
          ง. อัลโตสเตรตัส
                                                                            ่
4. เมฆในข้อใดทีมีลกษณะเป็ นชันเหนือหมอกลอยสู งจากพืนดินและมักปกคลุมอยูบริ เวณยอดเขา
                        ั
          ก. คิวมูลส  ั
          ข. เซอร์ รัส
          ค. สเตรตัส
          ง. อัลโตสเตรตัส
5. เมฆในข้อใดทีไม่จดอยูในกลุ่มเดียวกับพวก
                          ั ่
          ก. สเตรตัส
          ข. อัลโตคิวมูลส  ั
          ค. สเตรโตคิวมูลส    ั
          ง. นิมโบสเตรตัส
6. ฝนทีเกิดจากมวลอากาศร้อนกับมวลอากาศเย็นเคลือนเข้าชนกันและจะตกไม่แรงแต่ตกอย่างสมําเสมอ
ติดต่อกันเป็ นเวลานานๆ ฝนชนิดนีคือฝนในข้อใด
          ก. ฝนภูเขา
          ข. ฝนพายุหมุน
          ค. ฝนแนวปะทะ
          ง. ฝนพาความร้อน
23
7. แดง ใช้ขวดนําอัดลมขนาดเล็กทําเครื องมือวัดนําฝนอย่างง่าย ส่ วนดํา ใช้ขวดนําอัดลมขนาดใหญ่ทา   ํ
เครื องมือวัดนําฝนอย่างง่าย แดงและดํานําเครื องมือวัดนําฝนอย่างง่ายไปวางไว้บริ เวณทีมีฝนตกอย่าง
สมําเสมอเป็ นเวลาเท่ากัน ผลการทดลองทีได้ตรงกับข้อได้
          ก. เครื องวัดนําฝนของแดงได้ปริ มาณนําฝนมากกว่าของดํา
          ข. เครื องวัดนําฝนของดําได้ปริ มาณนําฝนมากกว่าของแดง
          ค. เครื องวัดนําฝนของแดงและของดําวัดปริ มาณนําฝนได้เท่ากัน
          ง. เครื องมือทังสองคนใช้วดปริ มาณนําฝนไม่ได้เพราะหาปริ มาตรนําฝนไม่ได้
                                   ั
8. เมฆทีก่อตัวในแนวดิงมักทําให้เกิดพายุฝนฟ้ าคะนอง และลมกรรโชกแรง คือเมฆชนิดใด
          ก. คิวมูลสั
          ข. อัลโตคิวมูลส  ั
          ค. นิมโบสเตรตัส
           ง. คิวมูโลนิมบัส
9. อะไรคือสาเหตุทีทําให้เกิดเมฆ
          ก. ไอนําในอากาศอิมตัว
          ข. ไอนําในอากาศมีอุณหภูมิลดลง
          ค. ไอนําในอากาศเย็นตัวลงรวมตัวเป็ นกลุ่มละอองนํา
          ง. อากาศเย็นลอยตําลง อากาศร้อนลอยขึนไปกระทบความเย็น
10. เมฆต่างจากหมอกมากทีสุ ดในข้อใด
          ก. เมฆมีสีดา หมอกมีสีขาว
                       ํ
          ข. เมฆมีความหนาแน่นมากกว่าหมอก
          ค. เมฆเกิดจากไอนํา หมอกเกิดจากอากาศ
          ง. เมฆเกิดในทีสู งกว่าหมอก
11. การวัดปริ มาณนําฝนเป็ นมิลลิเมตรคือการวัดสิ งใด
          ก. ขนาดของเม็ดฝน
          ข. ความสู งของนําฝนในภาชนะรองรับ
          ค. ระยะห่างระหว่างเม็ดฝน
          ง. ความสู งของนําฝนทีกระเด็นขึนเมือกระทบพืน
12. ข้อใดจัดเป็ นเมฆระดับสู ง
          ก. เมฆสเตรตัส
          ข. เมฆคิวมูลส  ั
          ค. เมฆเซอรัส
          ง. เมฆนิมโบสเตรตัส
24
13. หิ มะบนพืนดินป้ องกันอากาศบริ เวณขัวโลกไม่ให้ได้รับความร้อนเพิมขึนได้อย่างไร
         ก. การให้ความร้อนโดยแก๊สเรื อนกระจก
          ข. ความร้อนกระจายมาจากเส้นศูนย์สูตร
         ค. การสะท้อนของรังสี จากดวงอาทิตย์
         ง. การปล่อยความร้อนจากแก่นโลก

ตัวชี วัดข้ อที 11 สื บค้ น วิเคราะห์ และอธิบายผลของลมฟาอากาศต่ อการดํารงชี วตของสิ งมีชีวตและ
                                                       ้                     ิ            ิ
สิ งแวดล้ อม
1. อาชีพใดทีได้รับผลกระทบจากการเปลียนแปลงของลมฟ้ าอากาศน้อยทีสุ ด
          ก. ครู
          ข. นักบิน
          ค. เกษตรกร
            ง. นักเดินเรื อ
2. ผลกระทบทีเกิดจากปรากฏการณ์เอลนี โญ คือข้อใด
          ก. บริ เวณทีเคยแห้งแล้งจะมีฝนตกชุกตลอดปี
          ข. บริ เวณทีมีฝนตกชุกจะมีความแห้งแล้งตลอดปี
          ค. บริ เวณทีมีฝนตกชุกจะมีฝนเพิมขึนและบริ เวณทีแห้งแล้งจะแห้งแล้งยิงขึน
          ง. บริ เวณทีมีฝนตกชุกปริ มาณฝนจะลดลงและบริ เวณทีแห้งแล้งจะมีฝนเพิมมากขึน
3. ผลกระทบทีเกิดจากปรากฏการณ์ ลานีญา คือข้อใด
          ก. บริ เวณทีเคยแห้งแล้งจะมีฝนตกชุกตลอดปี
          ข. บริ เวณทีมีฝนตกชุกจะมีความแห้งแล้งตลอดปี
          ค. บริ เวณทีมีฝนตกชุกจะมีฝนเพิมขึนและบริ เวณทีแห้งแล้งจะแห้งแล้งยิงขึน
          ง. บริ เวณทีมีฝนตกชุกปริ มาณฝนจะลดลงและบริ เวณทีแห้งแล้งจะมีฝนเพิมมากขึน
4. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องเกียวกับการพยากรณ์อากาศ
          ก. เป็ นการคาดคะเนลักษณะของอากาศล่วงหน้า
          ข. เป็ นการรายงานสิ งทีเกิดขึนในอากาศในรอบหนึงวัน
          ค. เป็ นการสรุ ปการเปลียนแปลงของอากาศในรอบหนึงปี
          ง. เป็ นการสุ่ มลักษณะของอากาศทีเกิดขึนในรอบหนึงสัปดาห์
5. ถ้านักเรี ยนมองไปบนท้องฟ้ าพบว่ามีเมฆอยู่ ประมาณ 4 ส่ วนของท้ องฟา นักเรี ยนจะพยากรณ์อากาศ
                                                                      ้
เกียวกับเมฆอย่างไร
          ก. ท้องฟ้ าโปร่ ง
          ข. ท้องฟ้ าแจ่มใส
          ค. ท้องฟ้ ามีเมฆมาก
          ง. ท้องฟ้ ามีเมฆบางส่ วน
25
6. ในวันหนึงมีการพยากรณ์อากาศว่า อากาศเย็น ทะเลมีคลืนเล็กน้ อย ข้อใดแปลความหมายของการ
พยากรณ์ได้ถูกต้อง
         ก. อากาศมีอุณหภูมิตากว่า 15.9 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 8 องศาเซลเซี ยส
                                   ํ
              และทะเลมีคลืนสู งไม่เกิน 0.5 เมตร
         ข. อากาศมีอุณหภูมิตงแต่ 22.9 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 18 องศาเซลเซี ยส
                                 ั
              และทะเลมีคลืนสู งไม่เกิน 0.5 เมตร
         ค. อากาศมีอุณหภูมิตากว่า 15.9 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 8 องศาเซลเซี ยส
                                     ํ
              และทะเลมีคลืนสู งเกินกว่า 0.5 เมตร ถึง 1.25 เมตร
         ง. อากาศมีอุณหภูมิตงแต่ 22.9 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 18 องศาเซลเซี ยส
                               ั
              และทะเลมีคลืนสู งเกินกว่า 0.5 เมตร ถึง 1.25 เมตร
7. ในการพยากรณ์อากาศอาศัยข้อมูลจากสิ งใด
         ก. บารอมิเตอร์
         ข. อะนิโมมิเตอร์
         ค. แผนทีอากาศ
         ง. เครื องวัดนําฝน
8. จงพิจารณาว่าข้อใดถูกต้อง
         ก. ถ้าหัวลูกศรของศรลมชีไปทางทิศใต้ แสดงว่าลมพัดมาจากทิศใต้
         ข. หน่วยวัดปริ มาณนําฝนทีนิยมใช้ คือ เซนติเมตร
         ค. หยาดนําฟ้ า หมายถึง ฝนและลูกเห็บเท่านัน
         ง. ลมทะเลเกิดขึนในเวลากลางคืน
9. เครื องมือทีวัดทังทิศทางลมและอัตราเร็ วของลมเรี ยกว่าอะไร
         ก. ศรลม
         ข. แอโรเวน
         ค. บารอมิเตอร์
         ง. อะนิโมมิเตอร์
10. สมชายไปเทียวชายทะเลแห่งหนึง พบว่าคลืนทีซัดเข้าหาฝังมีความสู งประมาณ 1 เมตร แสดงว่าทะเล
แห่งนันมีลกษณะอย่างไร
            ั
          ก. ทะเลเรี ยบ
          ข. ทะเลมีคลืนจัด
         ค. ทะเลมีคลืนเล็กน้อย
         ง. ทะเลมีคลืนปานกลาง
26
11. การพยากรณ์อากาศในข้อใดมีประโยชน์มากทีสุ ด
       ก. การบอกเวลาดวงอาทิตย์ขึนและตก
       ข. การประกาศให้ทราบล่วงหน้าเกียวกับพายุหมุน
       ค. การบอกอุณหภูมิสูงสุ ดและตําสุ ดในรอบ 24 ชัวโมง
       ง. การบอกปริ มาณฝนทีตกมากทีสุ ด หรื อน้อยทีสุ ดในรอบ 24 ชัวโมง

ตัวชี วัดข้ อที 12 สื บค้ น วิเคราะห์ และอธิบายปัจจัยทางธรรมชาติและการกระทําของมนุษย์ ทมีผลต่ อการ
                                                                                       ี
เปลียนแปลงอุณหภูมิของโลก รู โหว่ โอโซนและฝนกรด
1. กิจกรรมใดทีไม่ ได้ ช่วยให้การเกิดปรากฏการณ์เรื อนกระจกบนโลกลดลง
            ก. การปลูกต้นไม้
          ข. การงดใช้สารซี เอฟซี
          ค. การใช้ถ่านหิ นแทนนํามัน
          ง. การควบคุมการใช้เชือเพลิง
2. แก๊สในข้อใดทีไม่ มีผลทําให้อุณหภูมิของโลกสู งขึน
          ก. แก๊สมีเทน
            ข. แก๊สออกซิ เจน
            ค. แก๊สคาร์ บอนไดออกไซด์
          ง แก๊สคลอโรฟลูออโรคาร์ บอน
3. “รู โหว่โอโซน” มีสาเหตุมาจากแก๊สชนิดใดมากทีสุ ด
          ก. แก๊สมีเทน
          ข. แก๊สออกซิ เจน
          ค. แก๊สคาร์ บอนไดออกไซด์
          ง แก๊สคลอโรฟลูออโรคาร์ บอน
4. กระบวนการใดของธรรมชาติทีช่วยลดภาวะโลกร้อนได้
          ก. การหายใจของพืช
          ข. การหายใจของสัตว์
          ค. การสร้างอาหารของพืช
          ง. การสร้างอาหารของสัตว์
5. อากาศหนาวเย็นในฤดูหนาวของประเทศไทยได้รับอิทธิ พลจากข้อใด
          ก. หย่อมความกดอากาศตําจากมหาสมุทรอินเดีย
          ข. หย่อมความกดอากาศสู งจากมหาสมุทรอินเดีย
          ค. หย่อมความกดอากาศตําจากประเทศจีนและไซบีเรี ย
          ง. หย่อมความกดอากาศสู งจากประเทศจีนและไซบีเรี ย
27
6. พายุหมุนทีเกิดในบริ เวณทะเลจีนใต้ คือข้อใด
        ก. บาเกียว
        ข. ไซโคลน
        ค. ไต้ฝน ุ่
         ง. เฮอริ เคน
7. ข้อใดเป็ นความเร็ วของพายุดีเปรสชัน
       ก. ไม่เกิน 63 กิโลเมตรต่อชัวโมง
       ข. ระหว่าง 63 – 118 กิโลเมตรต่อชัวโมง
       ค. ระหว่าง 118 – 150 กิโลเมตรต่อชัวโมง
       ง. มากกว่า 150 กิโลเมตรต่อชัวโมงขึนไป
8. ข้อใดทําให้ฤดูกาลในประเทศไทยแตกต่างจากประเทศในเขตร้อนอืนๆ
         ก. ลมมรสุ ม
        ข. พายุหมุนเขตร้อน
        ค. พายุฟ้าคะนอง
        ง. ปรากฏการณ์เรื อนกระจก
9. พายุหมุนเขตร้อนในข้อใดทีมีความรุ นแรงมากทีสุ ด
         ก. พายุโซนร้อน
        ข. พายุไต้ฝน ุ่
        ค. พายุไซโคลน
        ง. พายุดีเปรสชัน
10. ลมบกเกิดในเวลาใด และพัดจากทีใดไปยังทีใด
        ก. กลางวัน พัดจากฝังออกสู่ ทะเล
        ข. กลางวัน พัดจากทะเลเข้าหาฝัง
         ค. กลางคืน พัดจากฝังออกสู่ ทะเล
        ง. กลางคืน พัดจากทะเลเข้าหาฝัง

ตัวชี วัดข้ อที 13 สื บค้น วิเคราะห์และอธิ บายผลของภาวะโลกร้อน รู โหว่โอโซนและฝนกรด ทีมีต่อสิ ง
ชีวตและสิ งแวดล้อม
   ิ
1. ปรากฏการณ์รูโหว่โอโซนเกิดในบรรยากาศชันใด
          ก. โทรโพสเฟี ยร์
          ข. มีโซสเฟี ยร์
          ค. สตราโตสเฟี ยร์
            ง. เทอร์ โมสเฟี ยร์
28
2. การป้ องกันไม่ให้อากาศมีอุณหภูมิสูงขึน เนื องจากปรากฏการณ์เรื อนกระจกวิธีใดดีทีสุ ด
          ก. ดูรายการโทรทัศน์ให้นอยลง
                                  ้
         ข. ลดการใช้เชือเพลิงให้มาก
         ค. ปลูกผักสวนครัวไว้ทุกบ้าน
         ง. งดเดินในห้างสรรพสิ นค้าทีมีเครื องปรับอากาศ
3. ข้อใดไม่ใช่ผลกระทบจากปรากฏการณ์เรื อนกระจก
          ก. อุณหภูมิของอากาศบนโลกสู งขึน
         ข. ระดับนําทะเลลดตําลง
         ค. ผลผลิตทางการเกษตรลดลง
         ง. ฤดูกาลบนโลกเปลียนแปลงไป

4. “ต้นไม้คือเพือนชีวต เจ้าดูดอากาศพิษแทนข้า” อากาศพิษทีกล่าวถึง คือแก๊สอะไร
                        ิ
        ก. คาร์ บอนมอนอกไซด์
        ข. คาร์ บอนไดออกไซด์
        ค. ซัลเฟอร์ ไดออกไซด์
         ง. ไนโตรเจนมอนอกไซด์
5. การเปลียนแปลงอุณหภูมิของโลกเกิดจากสาเหตุใดมากทีสุ ด
        ก. วาตภัย
         ข. อุทกภัย
         ค. แผ่นดินไหว
         ง. กิจกรรมของมนุษย์
6. ปรากฏการณ์เอลนีโญ เป็ นปรากฏการณ์ของลมฟ้ าอากาศทีส่ งผลกระทบรุ นแรงทีสุ ดในส่ วนใด
ของโลก
        ก. มหาสมุทรแปซิ ฟิก
        ข. บริ เวณเส้นศูนย์สูตร
        ค. ทวีปทีอยูเ่ หนือและใต้เส้นศูนย์สูตร
        ง. มหาสมุทรอินเดียและเอเชี ยตะวันออกเฉี ยงใต้
7. ข้อใดไม่ ได้ เป็ นผลกระทบทีเกิดจากการเปลียนแปลงอุณหภูมิของโลก
        ก. การเกิดแผ่นดินไหวเพิมขึน
        ข. การละลายของนําแข็งทีขัวโลกเพิมขึน
        ค. การเกิดความแปรปรวนของลมฟ้ าอากาศ
        ง. การเปลียนแปลงของระบบนิเวศและสิ งแวดล้อม
วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2

More Related Content

What's hot

แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 
ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์weerawato
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมdnavaroj
 
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน    หน่วย งานและพลังงานแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน    หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงานdnavaroj
 
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกลPhanuwat Somvongs
 
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศแบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศdnavaroj
 
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1dnavaroj
 
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพแบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพSirintip Arunmuang
 
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์สมศรี หอมเนียม
 
ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2Weerachat Martluplao
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1dnavaroj
 
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1Sivagon Soontong
 
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมแบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมJariya Jaiyot
 
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อแบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อKruthai Kidsdee
 
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์Jariya Jaiyot
 
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีWarodom Techasrisutee
 
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102พัน พัน
 

What's hot (20)

แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
 
ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์ข้อสอบวิทย์
ข้อสอบวิทย์
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
 
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน    หน่วย งานและพลังงานแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน    หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
 
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล
03แบบฝึกกฎการอนุรักษ์พลังงานกล
 
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศแบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
แบบทดสอบ บทที่ 4 ระบบนิเวศ
 
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1
 
ข้อสอบปลายภาคสังคม ม.1
ข้อสอบปลายภาคสังคม ม.1ข้อสอบปลายภาคสังคม ม.1
ข้อสอบปลายภาคสังคม ม.1
 
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพแบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
 
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
 
ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 1
 
12แบบทดสอบการแบ่งเซลล์
12แบบทดสอบการแบ่งเซลล์12แบบทดสอบการแบ่งเซลล์
12แบบทดสอบการแบ่งเซลล์
 
15แบบทดสอบเทคโนโลยีชีวภาพ
15แบบทดสอบเทคโนโลยีชีวภาพ15แบบทดสอบเทคโนโลยีชีวภาพ
15แบบทดสอบเทคโนโลยีชีวภาพ
 
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
 
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมแบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แบบทดสอบ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
 
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อแบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
 
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
แบบทดสอบ เรืื่องพอลิเมอร์
 
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
 
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
 

Viewers also liked

ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2
ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2
ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2dnavaroj
 
บรรยากาศ
บรรยากาศบรรยากาศ
บรรยากาศSupaluk Juntap
 
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตหน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตnetzad
 
แบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อ
แบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อแบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อ
แบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อkrupornpana55
 

Viewers also liked (6)

ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2
ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2
ข้อสอบวิทย์ ม.1 ภาค 1 และ ภาค 2
 
01
0101
01
 
บรรยากาศ
บรรยากาศบรรยากาศ
บรรยากาศ
 
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตหน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
 
แบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อ
แบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อแบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อ
แบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อ
 
สรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
สรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐานสรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
สรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
 

Similar to วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2

แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)rapinn
 
แบบทดสอบวิทย์ ม.1ตอนที่2
 แบบทดสอบวิทย์ ม.1ตอนที่2 แบบทดสอบวิทย์ ม.1ตอนที่2
แบบทดสอบวิทย์ ม.1ตอนที่2fal-war
 
ความเร็ว0
ความเร็ว0ความเร็ว0
ความเร็ว0krusridet
 
0 o net-2549
0 o net-25490 o net-2549
0 o net-2549saiyok07
 
แนวข้อสอบโมเมนตัมและการชน
แนวข้อสอบโมเมนตัมและการชนแนวข้อสอบโมเมนตัมและการชน
แนวข้อสอบโมเมนตัมและการชนWijitta DevilTeacher
 
Slแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docx
Slแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docxSlแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docx
Slแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docxkrupornpana55
 
ครูตุ้ย ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52
ครูตุ้ย   ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52ครูตุ้ย   ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52
ครูตุ้ย ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52joybh42
 
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติการเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติkungten555
 
บทที่ 2การเคลื่อนที่
บทที่ 2การเคลื่อนที่ บทที่ 2การเคลื่อนที่
บทที่ 2การเคลื่อนที่ thanakit553
 
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนการเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนpumarin20012
 

Similar to วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2 (20)

แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
แบบทดสอบ รายวิชาฟิสิกส์ (พื้นฐาน)
 
แบบทดสอบวิทย์ ม.1ตอนที่2
 แบบทดสอบวิทย์ ม.1ตอนที่2 แบบทดสอบวิทย์ ม.1ตอนที่2
แบบทดสอบวิทย์ ม.1ตอนที่2
 
ความเร็ว0
ความเร็ว0ความเร็ว0
ความเร็ว0
 
1ppt
1ppt1ppt
1ppt
 
ตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงาน
ตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงานตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงาน
ตะลุยโจทย์ข้อสอบ งานและพลังงาน
 
0 o net-2549
0 o net-25490 o net-2549
0 o net-2549
 
Pat 3
Pat 3Pat 3
Pat 3
 
แนวข้อสอบโมเมนตัมและการชน
แนวข้อสอบโมเมนตัมและการชนแนวข้อสอบโมเมนตัมและการชน
แนวข้อสอบโมเมนตัมและการชน
 
Slแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docx
Slแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docxSlแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docx
Slแบบทดสอบรายตัวชี้วัด หน่วยที่ 1 แรงและการเคลื่อนที่. 12 เม.ย.56docx
 
ครูตุ้ย ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52
ครูตุ้ย   ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52ครูตุ้ย   ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52
ครูตุ้ย ฟิสิกส์ .. โจทย์ โควต้า มช. 52
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
Physics test 1
Physics test 1Physics test 1
Physics test 1
 
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติการเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
 
บทที่ 2การเคลื่อนที่
บทที่ 2การเคลื่อนที่ บทที่ 2การเคลื่อนที่
บทที่ 2การเคลื่อนที่
 
P02
P02P02
P02
 
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุนการเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
 
2
22
2
 
Test phy2
Test phy2Test phy2
Test phy2
 
คณิต
คณิตคณิต
คณิต
 

More from dnavaroj

เอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysisเอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysisdnavaroj
 
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...dnavaroj
 
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559dnavaroj
 
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...dnavaroj
 
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.dnavaroj
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558dnavaroj
 
Science.m.3.2
Science.m.3.2Science.m.3.2
Science.m.3.2dnavaroj
 
Science.m.3.1
Science.m.3.1Science.m.3.1
Science.m.3.1dnavaroj
 
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)dnavaroj
 
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้dnavaroj
 
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้dnavaroj
 
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกันการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกันdnavaroj
 
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่าการยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่าdnavaroj
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมdnavaroj
 
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศแบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศdnavaroj
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 
Project pohpanpunya somdejyan
Project pohpanpunya somdejyanProject pohpanpunya somdejyan
Project pohpanpunya somdejyandnavaroj
 
ธรรมะ 365 วัน....ขออนุโมทนากับเจ้าของผลงาน
ธรรมะ 365 วัน....ขออนุโมทนากับเจ้าของผลงานธรรมะ 365 วัน....ขออนุโมทนากับเจ้าของผลงาน
ธรรมะ 365 วัน....ขออนุโมทนากับเจ้าของผลงานdnavaroj
 
แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5 ภาคเรียน 1
แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5  ภาคเรียน 1แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5  ภาคเรียน 1
แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5 ภาคเรียน 1dnavaroj
 

More from dnavaroj (20)

เอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysisเอกสารประกอบการอบรม Analysis
เอกสารประกอบการอบรม Analysis
 
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา  โรงเรีย...
บทความ บทความ การเปลี่ยนแปลงทักษะของนักเรียนในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรีย...
 
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
รายงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ญสส. ปี 2559
 
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
บทความวิจัย การเปลี่ยนแปลงทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม ในทักษะศตวรรษที่ 21...
 
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
Pocketbook ร้อยเรียงเรื่องราว พพปญ.รร.ญสส.
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5   2558
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 2558
 
Science.m.3.2
Science.m.3.2Science.m.3.2
Science.m.3.2
 
Science.m.3.1
Science.m.3.1Science.m.3.1
Science.m.3.1
 
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
สรุปงายงานวิจัยเพาะพันธุ์ปัญญ รร.ญสส.(ฉบับสมบูรณ์)
 
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
สบู่สมุนไพรข่าสร้างรายได้
 
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
น้ำพริกสมุนไพรข่าสร้างรายได้
 
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกันการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
การสกัดน้ำมันหอมระเหยจากข่าต่างชนิดกัน
 
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่าการยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
การยับยั้งเชื้อราด้วยสารสกัดจากข่า
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
 
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศแบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5  (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบปลายภาคเรียน วิทย์ 5 (ออกตามตัวชี้วัด)
 
Project pohpanpunya somdejyan
Project pohpanpunya somdejyanProject pohpanpunya somdejyan
Project pohpanpunya somdejyan
 
ธรรมะ 365 วัน....ขออนุโมทนากับเจ้าของผลงาน
ธรรมะ 365 วัน....ขออนุโมทนากับเจ้าของผลงานธรรมะ 365 วัน....ขออนุโมทนากับเจ้าของผลงาน
ธรรมะ 365 วัน....ขออนุโมทนากับเจ้าของผลงาน
 
แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5 ภาคเรียน 1
แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5  ภาคเรียน 1แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5  ภาคเรียน 1
แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 5 ภาคเรียน 1
 

วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม1เทอม2

  • 1. วิชาวิทยาศาสตร์ พนฐาน ว21102 ื ระดับชั นมัธยมศึกษาปี ที 1 ตัวชี วัดข้ อที 1 สื บค้นข้อมูลและอธิ บายปริ มาณสเกลาร์ ปริ มาณเวกเตอร์ 1. ปริ มาณทีมีแต่ขนาดเพียงอย่างเดียวหมายถึงปริ มาณในข้อใด ก. ปริ มาณเอสไอ ข. ปริ มาณเวกเตอร์ ค. ปริ มาณสเกลาร์ ง. ปริ มาณทางฟิ สิ กส์ 2. ปริ มาณทีมีทงขนาดและทิศทางหมายถึงปริ มาณในข้อใด ั ก. ปริ มาณเอสไอ ข. ปริ มาณเวกเตอร์ ค. ปริ มาณสเกลาร์ ง. ปริ มาณทางฟิ สิ กส์ 3. ข้อใดจัดเป็ นปริ มาณสเกลาร์ ทงหมดั ก. มวล ระยะทาง เวลา ข. มวล เวลา การกระจัด ค. เวลา อุณหภูมิ ความเร็ ว ง. แรง ความเร็ ว การกระจัด 4. ข้อใดจัดเป็ นปริ มาณเวกเตอร์ ทงหมด ั ก. มวล ระยะทาง เวลา ข. มวล เวลา การกระจัด ค. เวลา อุณหภูมิ ความเร็ ว ง. แรง ความเร็ ว การกระจัด 5. ข้อใดใช้ปริ มาณสเกลาร์ ได้ถูกต้อง ก. มะละกอมีมวล 2 กิโลกรัม ข. วัตถุมีความเร็ ว 0.5 เมตรต่อวินาที ค. รถยนต์วงด้วยความเร็ วสู ง ิ ง. นักเรี ยนเดินมาโรงเรี ยนเป็ นเส้นตรง 6. ข้อใดใช้ปริ มาณเวกเตอร์ ได้ถูกต้อง ก. มะละกอมีมวล 2 กิโลกรัม ข. วัตถุมีความเร็ ว 0.5 เมตรต่อวินาที ค. รถยนต์วงด้วยความเร็ วสู ง ิ ง. นักเรี ยนเดินมาโรงเรี ยนเป็ นเส้นตรง
  • 2. 2 7. ปริ มาณทีใช้วดมวลของวัตถุคือข้อใด ั ก. นิวตัน ข. มวล ค. เมตร ง. กิโลกรัม 8. โมล เป็ นหน่วยทีใช้วดปริ มาณใด ั ก. มวล ข. เวลา ค. ปริ มาณสาร ง. ความเข้มของแสง 9. ข้อใดเป็ นปริ มาณเวกเตอร์ ทงหมด ั ก. ความเร่ ง มวล ข. นําหนัก เวลา ค. ความเร็ ว การกระจัด ง. ระยะทาง อัตราเร็ ว 10. ข้อใดเป็ นปริ มาณสเกลาร์ ก. อัตราเร็ ว ข. ความเร็ ว ค. การกระจัด ง. แรง 11. เวกเตอร์ ทีบ่งบอกถึงอัตราการเปลียนแปลงตําแหน่งของวัตถุเทียบต่อเวลา หมายถึงข้อใด ก. การกระจัด ข. ความเร็ ว ค. อัตราเร็ ว ง. ความเร่ ง
  • 3. 3 12. แรงลัพธ์ในข้อใดมีขนาดมากทีสุ ด ก. 4 N 2N ข. 2N 4N ค. 2N 2N ง. 2N 4N 13. ข้อใดกล่าวผิด ก. แรงย่อย คือ แรงหลายๆ แรงมากระทําต่อวัตถุ ก้อนเดียวกัน ้ ข. แรงลัพธ์ คือ ผลรวมของแรงย่อยหลายๆแรง ทีกระทําต่อวัตถุกอนเดียวกัน ค. แรงคู่ควบ คือ แรงขนานต่างพวกกันคู่หนึงทีมีขนาดเท่ากัน ง. แรงขนาน คือ แรงทีมีทิศทางขนานกัน ต้องมีขนาดเท่ากัน กระทําทีจุดเดียวกัน 14. ข้อใดกล่าวถึงความหมายของแรงได้ถูกต้อง ก. สิ งทีทําให้วตถุเคลือนที ั ข. สิ งทีทําให้วตถุไม่เคลือนที ั ค. สิ งทีทําให้วตถุรักษาสภาพการเคลือนที ั ง. สิ งทีทําให้วตถุเปลียนสภาพการเคลือนที ั ตัวชี วัดข้ อที 2 ทดลองและอธิบายระยะทาง การกระจัด อัตราเร็วและความเร็วในการเคลือนทีของวัตถุ ข้ อมูล แดงเดินทางจากบ้านไปทางทิศเหนือ 300 เมตร แล้วเดินเลียวไปทางทิศตะวันตกเป็ น 400 เมตร ใช้เวลาทังสิ น 10 นาที จากข้ อมูล ใช้ ตอบคําถามจากข้ อ 1-3 1. แดงเดินทางได้ระยะทางเท่าไร ก. 300 เมตร ข. 400 เมตร ค. 500 เมตร ง. 700 เมตร
  • 4. 4 2. การกระจัดมีค่าเท่ากับเท่าไร ก. 300 เมตร ข. 400 เมตร ค. 500 เมตร ง. 700 เมตร 3. แดงเดินจากบ้านไปด้วยความเร็ วเท่าไร ก. 0.16 เมตรต่อวินาทีไปทางทิศตะวันตกเฉี ยงเหนื อ ข. 0.83 เมตรต่อวินาทีไปทางทิศตะวันตกเฉี ยงเหนื อ ค. 1.16 เมตรต่อวินาทีไปทางทิศตะวันตกเฉี ยงเหนื อ ง. 1.82 เมตรต่อวินาทีไปทางทิศตะวันตกเฉี ยงเหนื อ 4. อัตราเร็ วในการเดินของแดงมีค่าท่าไร ก. 0.16 เมตรต่อวินาที ข. 0.82 เมตรต่อวินาที ค. 1.16 เมตรต่อวินาที ง. 1.82 เมตรต่อวินาที 5. เหตุการณ์ใดเป็ นไปตามกฎการเคลือนทีข้อที 1 ของนิวตัน ก. รถแข่งกําลังวิงเข้าโค้งด้วยอัตราเร็ วคงที ข. ลิฟต์เคลือนทีลงด้วยอัตราเร็ วคงที ค. มะพร้าวร่ วงจากต้น ง. การปาเป้ า 6. การกระจัด หมายถึงอะไร ก. ระยะทางทีวัดได้ตามการเคลือนทีจริ งๆของวัตถุ ข. ระยะทางทีวัตถุเคลือนทีในแนวตรงจากตําแหน่ง เริ มต้นไปยังตําแหน่งสุ ดท้าย ค. การเดินทางจากทีหนึงไปยังอีกทีหนึง โดยมี เส้นทางให้เลือกหลายเส้นทาง ง. การเดินทางจากทีหนึงไปยังอีกทีหนึง โดยใช้ เส้นทางเพียงเส้นเดียว 7. ฟิ ล์มขีรถจักรยานไปทางทิศตะวันออกจากจุด ก ไปยังจุด ข เป็ นระยะทาง 40 เมตร ใช้เวลา 20 วินาที ข้อใดเป็ นอัตราเร็ วเฉลียและความเร็ วเฉลียของรถจักรยานคันนี ก. 2 m/s และ 4 m/s ข. 4 m/s และ 2 m/s ค. 4 m/s และ 4 m/s ง. 2 m/s และ 2 m/s
  • 5. 5 ่ 8. กล่องใบหนึงวางอยูทีพืนห้อง ก้อยดึงกล่องไปทางซ้ายด้วยแรง 10 นิวตัน แก้มดึงกล่องไปทางขวาด้วย แรง 20 นิวตัน ข้อใดสรุ ปถูกต้อง ก. กล่องเคลือนทีไปทางขวา ข. กล่องเคลือนทีไปทางซ้าย ค. กล่องหยุดนิง ง. กล่องเคลือนทีด้วยความเร็ วคงที 9. การเตะลูกฟุตบอลอัดกําแพง แล้วฟุตบอลกระเด้งกลับมา ใช้กฎการเคลือนทีของนิวตันข้อใด ก. ข้อ 1 ข. ข้อ 2 ค. ข้อ 3 ง. ทัง 3 ข้อ 10. เหตุการณ์ใดเกิดจากแรงโน้มถ่วงของโลก ก. การเปิ ดหน้าต่าง ข. รถยนต์วงบนถนน ิ ค. การแล่นเรื อใบ ง. นําตก 11. ข้อใดเป็ นการเพิมแรงเสี ยดทาน ก. ใส่ นามันหล่อลืน ํ ข. เรื อมีรูปร่ างเพรี ยว ค. ดอกยางบนยางรถยนต์ ง. ล้อของรถเข็น 12. ดําขับมอเตอร์ ไชต์จากบ้านมาโรงเรี ยนเป็ นระยะทาง 500 เมตรเป็ นเวลา 25 วินาที ความเร็ วของรถ มอเตอร์ ไซต์คนนีมีค่าเท่าไร ั ก. 2 เมตรต่อวินาที ข. 20 เมตรต่อวินาที ค. 25 เมตรต่อวินาที ง. 50 เมตรต่อวินาที 13. อัตราเร็ วในการเคลือนทีของมอเตอร์ ไซต์คนนีมีค่าเท่าไร ั ก. 2 เมตรต่อวินาที ข. 20 เมตรต่อวินาที ค. 25 เมตรต่อวินาที ง. 50 เมตรต่อวินาที
  • 6. 6 ข้ อมูล ใช้ ตอบคําถามจากข้ อ 14-17 เด็กหญิงนําฝนเดินไปทางทิศตะวันออกเป็ นระยะทาง 40 เมตร แล้วเดินย้อนกลับมาทางทิศ ตะวันตกเป็ นระยะทาง 30 เมตร โดยใช้เวลาทังหมด 3 วินาที 14. เด็กหญิงนําฝนเดินทางได้ระยะทางเท่าไร ก. 10 เมตร ข. 40 เมตร ค. 50 เมตร ง. 70 เมตร 15. การกระจัดมีค่าเท่ากับเท่าไร ก. 10 เมตร ข. 40 เมตร ค. 50 เมตร ง. 70 เมตร 16. ความเร็ วในการเดินของนําฝนมีค่าเท่าไร ก. 0.27 เมตรต่อวินาที ข. 0.33 เมตรต่อวินาที ค. 1.27 เมตรต่อวินาที ง. 3.33 เมตรต่อวินาที 17. อัตราเร็ วในการเดินของนําฝนมีค่าท่าไร ก. 3.33 เมตรต่อวินาที ข. 10.33 เมตรต่อวินาที ค. 18.33 เมตรต่อวินาที ง. 23.33 เมตรต่อวินาที ข้ อมูล ใช้ ตอบคําถามจากข้ อ 18-19 ่ ชายคนหนึงเดินจากตําบล ก ไปยังตําบล ข ซึ งอยูทางทิศเหนื อห่างจากตําบล ก 2 กิโลเมตร ่ ใช้เวลา 30 นาที แล้วเลียวไปตําบล ค ทีอยูทางทิศตะวันออกและห่างจากตําบล ข 3 กิโลเมตร เป็ นเวลา 1 ชัวโมง 18. อัตราเร็ วในช่วงจากตําบล ก ถึงตําบล ข มีค่าเท่าไร ก. 3 กิโลเมตรต่อชัวโมง ข. 4 กิโลเมตรต่อชัวโมง ค. 3.5 กิโลเมตรต่อชัวโมง ง. 4.5 กิโลเมตรต่อชัวโมง
  • 7. 7 19. อัตราเร็ วเฉลียตลอดการเดินทางมีค่าเท่าไร ก. 3 กิโลเมตรต่อชัวโมง ข. 4 กิโลเมตรต่อชัวโมง ค. 3.5 กิโลเมตรต่อชัวโมง ง. 4.5 กิโลเมตรต่อชัวโมง ตัวชี วัดที 3 ทดลองและอธิบายอุณหภูมิ การวัดอุณหภูมิ 1. วัดอุณหภูมิทียอดภูเรื อได้ 10 ° C คิดเป็ นกีองศา ฟาเรนไฮต์ ก. 30 องศาฟาเรนไฮต์ ข. 40 องศาฟาเรนไฮต์ ค. 50 องศาฟาเรนไฮต์ ง. 60 องศาฟาเรนไฮต์ 2. อากาศบนยอดดอยอินทนนท์วดอุณหภูมิได้ 2 ° C คิดเป็ นกีเคลวิน ั ก. 273 เคลวิน ข. 275 เคลวิน ค. 276 เคลวิน ง. 278 เคลวิน ่ 3. ขณะอ่านค่าอุณหภูมิจากเทอร์ มอมิเตอร์ จะต้องให้สายตาของเราอยูในระดับใด ก. ระดับเดียวกับของเหลวในเทอร์ มอมิเตอร์ ข. เหนื อของเหลวในเทอร์ มอมิเตอร์ ค. ตํากว่าของเหลวในเทอร์ มอมิเตอร์ ง. เหนื อกระเปาะของเหลวเล็กน้อย ั 4. เทอร์ มอมิเตอร์ ทีใช้กนโดยทัวไป หรื อปรอทวัดไข้ของแพทย์ นิยมบอกหน่วยวัดของอุณหภูมิตาม ข้อใด ก. เซลเซี ยส ข. เคลวิน ค. ฟาเรนไฮต์ ง. เซ็นติกรัม ่ 5. เทอร์ มอมิเตอร์ วดไข้มีขีดบอกอุณหภูมิอยูระหว่างช่วงใด ั ° ก. 30 – 50 C ข. 35 – 42 ° C ค. 37 – 50 ° C ง. 0 – 100 ° C
  • 8. 8 6. อุณหภูมิหองเรี ยน 30 ° C คิดเป็ นกีองศาโรเมอร์ ้ ก. 24 ° R ข. 25 ° R ค. 26 ° R ง. 27 ° R 7. ข้อใดอธิ บายความหมายของอุณหภูมิได้ถูกต้อง ก. ระดับความเย็นทีปรากฏในวัตถุนนๆ ั ข. ระดับความร้อนทีปรากฏในวัตถุนนๆ ั ่ ค. ปริ มาณอากาศเย็นทีอยูในวัตถุนนๆ ั ่ ง. ปริ มาณอากาศร้อนทีอยูในวัตถุนนๆ ั 8. ของเหลวทีนิยมใช้บรรจุในเทอร์ มอมิเตอร์ คือสารใด ก. นํา ข. นํามัน ค. ปรอท ง. แอลกอฮอล์ 9. เราไม่ควรนําเทอร์ มอมิเตอร์ วดไข้ไปใช้วดอุณหภูมิของนําเดือดเพราะเหตุใด ั ั ก. แก้วทีใช้ทากระเปาะเทอร์ มอมิเตอร์ แบบวัดไข้แตกได้ง่าย ํ ข. เทอร์ มอมิเตอร์ แบบวัดไข้มีราคาถูกวัดอุณหภูมิของนําเดือดไม่ได้ ค. ของเหลวทีใช้ในเทอร์ มอมิเตอร์ แบบวัดไข้วดเป็ นอันตรายต่อการทดลอง ั ง. เทอร์ มอมิเตอร์ แบบวัดไข้มีช่วงการวัดแคบวัดอุณหภูมิของนําเดือดไม่ได้ 10. หน่วยในระบบอังกฤษวัดอุณหภูมิของสารโดยใช้หน่วยใด ก. โรเมอร์ ข. เคลวิน ค. เซลเซี ยส ง. ฟาเรนไฮต์ 11. 300 องศาเคลวินมีค่าเท่ากับกีองศาเซลเซี ยส ก. 27 องศาเซลเซี ยส ข. 37 องศาเซลเซี ยส ค. 47 องศาเซลเซี ยส ง. 57 องศาเซลเซี ยส
  • 9. 9 12. 70 องศาเซลเซี ยสมีค่าเท่ากับกีองศาเคลวิน ก. 227 องศาเซลเซี ยส ข. 243 องศาเซลเซี ยส ค. 327 องศาเซลเซี ยส ง. 343 องศาเซลเซี ยส 13. ทีห้องปฏิบติการวิทยาศาสตร์ ชนมัธยมศึกษาปี ที 1 วัดอุณหภูมิได้ 68 องศาฟาเรนไฮต์ ถ้าเทียบเป็ นองศา ั ั เซลเซี ยสจะมีอุณหภูมิกีองศา ก. 10 องศาเซลเซี ยส ข. 20 องศาเซลเซี ยส ค. 30 องศาเซลเซี ยส ง. 40 องศาเซลเซี ยส 14. ในขณะทีนําเดือดอุณหภูมิของนําเดือดและไอนําเดือดมีค่าอย่างไร ก. อุณหภูมิของนําเดือดและไอนําเดือดมีค่าเท่ากัน ข. อุณหภูมิของนําเดือดตํากว่าอุณหภูมิของไอนําเดือด ค. อุณหภูมิของนําเดือดสู งกว่าอุณหภูมิของไอนําเดือด ง. สรุ ปไม่ได้เพราะต้องทําการทดลองดู ตัวชี วัดที 4 สั งเกตและอธิบายการถ่ ายโอนความร้ อนและนําความรู้ ไปใช้ ประโยชน์ 1. ถ้านักเรี ยนใช้ชอนโลหะแช่ในนําร้อนทิงไว้สักครู่ นกเรี ยนจับทีด้ามช้อนจะรู ้สึกร้อนเพราะสาเหตุใด ้ ั ก. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการนําความร้อน ข. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการพาความร้อน ค. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการแผ่รังสี ความร้อน ง. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการถ่ายทอดพลังงานความร้อน 2. ถ้านักเรี ยนเอามือไปอังไว้เหนื อเปลวไฟความร้อนจากไฟมาถึงนักเรี ยนได้โดยวิธีใด ก. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการนําความร้อน ข. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการพาความร้อน ค. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการแผ่รังสี ความร้อน ง. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการถ่ายทอดพลังงานความร้อน ่ 3. การทีเรารู ้สึกร้อนเมือยืนอยูกลางแสงแดดเพราะมีการถ่ายโอนพลังงานความร้อนมาจากดวงอาทิตย์ดวยวิธีการใด ้ ก. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการนําความร้อน ข. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการพาความร้อน ค. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการแผ่รังสี ความร้อน ง. มีการถ่ายโอนความร้อนโดยการถ่ายทอดพลังงานความร้อน
  • 10. 10 4. ข้อใดเป็ นการถ่ายโอนพลังงานความร้อนแบบการนําความร้อน ก. กาต้มนํา ข. ความร้อนจากดวงอาทิตย์ ค. การเกิดลมบกลมทะเล ง. ความร้อนจากแผ่นอลูมิเนี ยมฟอยด์ทีใช้ห่ออาหาร 5. ข้อใดเป็ นการถ่ายโอนพลังงานความร้อนแบบการพาความร้อน ก. กาต้มนํา ข. ความร้อนจากดวงอาทิตย์ ค. การเกิดลมบกลมทะเล ง. ความร้อนจากแผ่นอลูมิเนี ยมฟอยด์ทีใช้ห่ออาหาร 6. ข้อใดเป็ นการถ่ายโอนพลังงานความร้อนโดยการแผ่รังสี ก. การได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ ข. การได้รับความร้อนจากการนังผิงไฟ ค. การได้รับความร้อนจากทัพพีทีจุ่มในนําร้อน ง. ถูกทังข้อ ก และ ข้อ ข 7. การถ่ายโอนพลังงานความร้อนโดยการพาความร้อนเกิดขึนในบริ เวณทีเป็ นสุ ญญากาศได้หรื อไม่เพราะเหตุใด ก. ได้ เพราะความร้อนของอากาศสามารถเคลือนทีไปได้ทุกที ข. ไม่ได้ เพราะบริ เวณทีเป็ นสู ญญากาศอากาศเคลือนทีไม่ได้ ค. ได้ เพราะบริ เวณทีเป็ นสู ญญากาศสามารถพาความร้อนได้ดีทีสุ ด ง. ไม่ได้ เพราะบริ เวณทีเป็ นสู ญญากาศไม่มีสารใดทีจะเป็ นตัวกลางทีจะพาความร้อนได้ 8. ข้อใดไม่ใช่วธีการถ่ายโอนพลังงานความร้อน ิ ก. การนําความร้อน ข. การพาความร้อน ค. การคายความร้อน ง. การแผ่รังสี ความร้อน 9. การถ่ายโอนพลังงานความร้อนแบบใดทีต้องส่ งผ่านความร้อนไปตามเนือของตัวกลาง แต่ตวกลางไม่ ั เคลือนทีไปด้วย ก. การนําความร้อน ข. การพาความร้อน ค. การคายความร้อน ง. การแผ่รังสี ความร้อน
  • 11. 11 10. “ ในวันทีอากาศร้อน ฉันชอบอาบนําหลายๆครัง ทําให้ฉนรู ้สึกเย็นสบายมากเลย ” จากคํากล่าวนี ั เกียวข้องกับการถ่ายโอนความร้อนด้วยวิธีใด ก. การนําความร้อน ข. การพาความร้อน ค. การคายความร้อน ง. การแผ่รังสี ความร้อน ่ 11. เพราะเหตุใดประเทศไทย หรื อประเทศทีอยูในสภาพอากาศร้อนจึงเหมาะสําหรับการสร้างบ้านทีมีใต้ถุน สู ง หลังคาทรงสู ง และมีช่องระบายอากาศ ก. อากาศช่วยพาความร้อนออกไป ข. อากาศช่วยนําความร้อนออกไป ค. อากาศช่วยนําและพาความร้อนออกไป ง. อากาศช่วยนําความร้อนเข้ามาพาความร้อนออกไป 12. ข้อใดไม่เกียวข้องกับการพาความร้อน ก. อาบนําเมืออากาศร้อน ข. จับด้ามกระทะบริ เวณทีเป็ นพลาสติก ค. เอาผ้าชุบนําเช็ดตัวเมือเป็ นไข้ ง. เป่ าอาหารทีร้อนก่อนรับประทาน 13. เมือเอามือไปอังข้างๆเตาไฟจะรู ้สึกร้อน ความร้อนจากเตาไฟจะมาถึงมือเราโดยวิธีใด ก. การนําความร้อน ข. การพาความร้อน ค. การแผ่รังสี ความร้อน ง. การพาความร้อนและการแผ่รังสี ความร้อน 14. เพราะเหตุใดจึงนิยมใช้อะลูมิเนียมมาผลิตเป็ นหม้อสําหรับประกอบอาหาร ก. เป็ นวัตถุทีนําความร้อนได้ดี ข. เป็ นวัตถุทีพาความร้อนได้ดี ค. เป็ นวัตถุทีนําและพาความร้อนได้ดี ง. เป็ นวัตถุทีแข็งแรง ทนทาน ไม่เป็ นสนิม ตัวชี วัดข้ อที 5 อธิบายการดูดกลืน การคายความร้ อนโดยการแผ่ รังสี และการนําความรู้ ไปใช้ ประโยชน์ 1. ถ้านักเรี ยนสวมเสื อผ้าสี อ่อนอยูกลางแสงแดดนักเรี ยนจะรู ้สึกร้อนน้อยกว่าสวมเสื อผ้าสี เข้มเป็ นเพราะเหตุใด ่ ก. วัตถุทีมีสีอ่อนจะดูดกลืนแสงได้มากกว่าวัตถุสีเข้ม ข. วัตถุทีมีสีอ่อนจะดูดกลืนแสงได้นอยกว่าวัตถุสีเข้ม ้ ค. วัตถุทีมีสีอ่อนจะคายความร้อนได้นอยกว่าวัตถุสีเข้ม ้ ง. วัตถุทีมีสีอ่อนจะคายความร้อนได้มากกว่าวัตถุสีเข้ม
  • 12. 12 2. ชาวนาควรใส่ เสื อผ้าทีมีสีและลักษณะอย่างไรจึงจะทําให้ไม่รู้สึกร้อนมากเมือออกไปทํานา ก. สี เข้ม เนือบาง ข. สี เข้ม เนือหนา ค. สี อ่อน เนือหนา ง. สี อ่อน เนือบาง 3. รถบรรทุกนํามันนิยมเคลือบผิวหน้าด้วยสี ขาวเพราะสาเหตุใด ก. ช่วยป้ องกันการระเหยของนํามัน ข. ช่วยลดการดูดกลืนรังสี จากดวงอาทิตย์ ค. ช่วยสะท้อนรังสี จากดวงอาทิตย์ ง. ถูกทังข้อ ข และข้อ ค 4. โลกได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์โดยวิธีใด ก. การนําความร้อน ข. การพาความร้อน ค. การแผ่รังสี ความร้อน ง. การคายความร้อน 5. ถ้านักเรี ยนสวมเสื อสี ดาแล้วยืนกลางแดดจะรู ้สึกร้อนกว่าสวมเสื อสี อืน เพราะเหตุใด ํ ก. สี ดาดูดความร้อนได้ดี ํ ข. สี ดาคายความร้อนได้ดี ํ ค. สี ดาคายความร้อนได้ดี ํ ง. สี ดาส่ งผ่านความร้อนได้ดี ํ ่ ่ 6. บ้านพักทีอยูอาศัยของประเทศทีอยูในเขตร้อน นิยมทาสี ตวบ้านด้วยสี ขาว เพราะเหตุใด ั ก. ทําให้สว่าง สดใส ดูสะอาดตา ข. สี ขาวคายความร้อนได้เร็ วกว่าสี อืนๆ ค. สี ขาวดูดกลืนความร้อนน้อยกว่าสี อืนๆ ง. เป็ นฉนวนความร้อนทําให้บานรู ้สึกเย็น ้ 7. ข้อใดถูกต้องเกียวกับการดูดกลืนและคายความร้อนของวัตถุ ก. วัตถุทุกชนิดจะดูดกลืนความร้อนได้เท่ากัน ข. วัตถุทุกชนิดจะคายความร้อนได้เท่ากัน ค. วัตถุทุกชนิดจะดูดกลืนและคายความร้อนได้ไม่เท่ากัน ง. วัตถุทุกชนิดดูดกลืนความร้อนได้เท่ากัน แต่จะคายความร้อนได้ไม่เท่ากัน
  • 13. 13 8. ในหน้าหนาวควรเลือกใส่ เสื อผ้าทีมีสีอย่างไรจึงจะช่วยดูดกลืนความร้อนให้ร่างกายอบอุ่น ก. เหลือง ฟ้ า ข. ชมพู ส้ม ค. นําตาล เขียวอ่อน ง. ดํา นําเงินเข้ม 9. เพราะเหตุใดจึงนิยมติดเครื องปรับอากาศไว้บริ เวณส่ วนบนของห้องหรื อติดกับเพดานห้อง ก. เป็ นบริ เวณทีเหมาะสมทีสุ ด ข. อากาศร้อนสามารถระบายออกจากห้องได้อย่างรวดเร็ ว ค. อากาศร้อนมีความหนาแน่นน้อยจะลอยขึนอากาศเย็นจะลอยตําลงมา ง. อากาศเย็นมีความหนาแน่นน้อยจะลอยขึนอากาศร้อนจะลอยตําลงมา 10. ถ้านักเรี ยนสวมเสื อผ้าสี อ่อนอยูกลางแสงแดดนักเรี ยนจะรู ้สึกร้อนน้อยกว่าสวมเสื อผ้าสี เข้มเป็ นเพราะเหตุใด ่ ก. วัตถุทีมีสีอ่อนจะดูดกลืนแสงได้มากกว่าวัตถุสีเข้ม ข. วัตถุทีมีสีอ่อนจะดูดกลืนแสงได้นอยกว่าวัตถุสีเข้ม ้ ค. วัตถุทีมีสีอ่อนจะคายความร้อนได้นอยกว่าวัตถุสีเข้ม ้ ง. วัตถุทีมีสีอ่อนจะคายความร้อนได้มากกว่าวัตถุสีเข้ม 11. อาคารบางอาคารใช้แก้วประกอบเป็ นผนังของอาคารเพือประโยชน์ในด้านใด ก. สะท้อนความร้อนออกจากตึกเพราะแก้วเป็ นตัวนําความร้อนทีไม่ดี ข. รับและคายความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้ดีทีสุ ดจึงประหยัดพลังงานไฟฟ้ า ค. สะท้อนความร้อนภายในตึกได้ดีจึงช่วยทําให้อุณหภูมิในห้องเย็นสบาย ง. ป้ องกันการคายความร้อนอกจากตึกจึงทําให้อุณหภูมิภายในตึกสมําเสมอ ตัวชี วัดข้ อที 6 อธิบายสมดุลความร้ อนและผลของความร้ อนต่ อการขยายตัวของสารและนําความรู้ ไปใช้ ใน ชี วตประจําวัน ิ 1. ข้อใดแสดงถึงสมดุลความร้อนได้ถูกต้อง ก. การให้ความร้อนแก่วตถุ A และวัตถุ B จนกระทังอุณหภูมิของวัตถุ A เท่ากับวัตถุ B ั ข. การถ่ายเทความร้อนออกจากวัตถุ A และวัตถุ B จนกระทังวัตถุทงสองมีอุณหภูมิเท่ากัน ั ค. การถ่ายเทความร้อนแก่วตถุ A และวัตถุ B จนกระทังวัตถุทงสองมีพลังงานความร้อนเท่ากัน ั ั ง. การทีวัตถุ A มีอุณหภูมิสูงกว่าวัตถุ B ถ่ายเทความร้อนจากวัตถุ A ไปยังวัตถุ B จนกระทังวัตถุ ทังสอง มีอุณหภูมิเท่ากัน 2. รถยนต์ทีแล่นบนถนนทีร้อนจัดนานๆยางรถยนต์อาจจะระเบิดได้เป็ นเพราะสาเหตุใด ก. การแข็งตัวของเนือยางเมือได้รับความร้อน ข. การหดตัวของเนื อยางเมือได้รับความร้อน ค. การอ่อนตัวของเนือยางเมือได้รับความร้อน ง. การขยายตัวของเนือยางเมือได้รับความร้อน
  • 14. 14 3. ข้อใดไม่ใช่การนําหลักความรู ้เกียวกับการขยายตัวของวัตถุมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวัน ก. การสร้างรางรถไฟ ข. การใช้ห่วงรัดสิ งของ ค. การขึงสายไฟระหว่างสายไฟ ง. การใช้พลาสติกทําด้ามทัพพี 4. เพราะเหตุใดเมือเทนําเดือดลงในแก้วหนาๆ แล้ว แก้วจึงเกิดการแตกร้าวขึน ก. ด้านในของแก้วหดตัว ขณะทีด้านนอกของแก้วพยายามขยายตัว ข. ด้านในของแก้วพยายามขยายตัว ขณะทีด้านนอกไม่เปลียนแปลง ค. ด้านในและด้านนอกของแก้วหดตัวพร้อมกัน ง. ด้านในและด้านนอกของแก้วขยายตัวพร้อมกัน 5. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกียวกับสมดุลความร้อน ก. เกิดขึนเมือวัตถุ 2 ชนิดมีอุณหภูมิแตกต่างกัน ข. ต้องเกิดสมดุลความร้อนก่อนแล้วจึงเกิดการถ่ายโอนความร้อน ค. เมือเกิดสมดุลความร้อนวัตถุทง 2 ชนิดจะมีอุณหภูมิเท่ากัน ั ง. การเกิดสมดุลความร้อนเกียวข้องกับการดูดและการคายความร้อนของวัตถุ 6. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกียวกับการขยายตัวของวัตถุเมือได้รับความร้อน ก. ของเหลวขยายตัวได้นอยกว่าของแข็ง ้ ข. แก๊สขยายตัวได้ดีทีสุ ด ค. ของแข็งขยายตัวได้นอยทีสุ ด ้ ง. ของเหลวขยายตัวได้นอยกว่าแก๊ส ้ 7. ในข้อใดเป็ นการนําหลักการของผลของความร้อนต่อการขยายตัวของวัตถุมาใช้ได้อย่าง ปลอดภัยและเกิดประโยชน์อย่างชัดเจน ก. การสร้างเขือนกันนํา ข. การสร้างรางรถไฟทีต้องเว้นช่องระยะห่างของรางแต่ละเส้น ค. การสร้างตึกหรื ออาคารสู งๆ ง. การสร้างพาหนะ ยานยนต์ในการขับขี 8. จากความรู ้เรื องการขยายตัวของวัตถุเมือได้รับความร้อน สามารถนําไปใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน ยกเว้นข้อใด ก. การทําเทอร์ โมสตัท ข. การสร้างรางรถไฟ ค. การสร้างถนนคอนกรี ต ง. การสร้างแผงเซลล์สุริยะ
  • 15. 15 9. ถ้าเทนําร้อนใส่ แก้วตังวางทิงไว้ เมือเวลาผ่านไปนําในแก้วจะมีอุณหภูมิเท่ากับอากาศ ซึ งจะเกียวข้อง กับสิ งใด ก. การนําความร้อน ข. การพาความร้อน ค. สมดุลความร้อน ง. การแผ่รังสี ความร้อน 10. ข้อใดเป็ นการขยายตัวของวัตถุแบบเชิงเส้น ก. การขยายตัวของสายไฟฟ้ า ข. การขยายตัวของแผ่นคอนกรี ต ค. การขยายตัวของห่วงรัดของ ง. การขยายตัวของทางวิงสนามบิน 11. การสร้างตัวควบคุมอุณหภูมิสาหรับควบคุมกระแสไฟฟ้ าในเตารี ดเป็ นการนําหลักการใดมาใช้ ํ ประโยชน์ ก. การนําความร้อน ข. การพาความร้อน ค. สมดุลความร้อน ง. สมบัติการขยายตัวของวัตถุ 12. การวางรางรถไฟต้องเว้นระยะห่างของรอยต่อแต่ละท่อนเพืออะไร ก. ความสะดวกในการเปลียนราง ข. ความสะดวกในการวางแนวรางให้ตรง ค. ป้ องการการขยายตัวของรางเมือได้รับความร้อน ง. ป้ องกันไม่ให้คนขับรถไฟเกิดการหลับใน ตัวชี วัดข้ อที 7 สื บค้ นและอธิบายองค์ ประกอบและการแบ่ งชั นบรรยากาศทีปกคลุมผิวโลก 1. ส่ วนประกอบใดของอากาศแห้งทีมีปริ มาณมากทีสุ ดในบรรยากาศ ก. แก๊สอาร์ กอน ข. แก๊สไนโตรเจน ค. แก๊สออกซิ เจน ง. แก๊สคาร์ บอนไดออกไซด์ 2. สมชาย นํานําแข็งใส่ แก้ววางทิงไว้สักครู่ แล้วสังเกตพบว่ามีหยดนําเกาะอยูขางแก้วเป็ นจํานวนมาก ่ ้ นักเรี ยนคิดว่าสมชายกําลังทําการทดลองเกียวกับเรื องใด ก. การละลายของนําแข็ง ข. ประโยชน์ของบรรยากาศ ค. อากาศมีไอนําเป็ นองค์ประกอบ ง. การกลันตัวของหยดนําในอากาศ
  • 16. 16 3. บรรยากาศชันใดทีมีความสําคัญต่อการดํารงชีวตของสิ งมีชีวตบนโลกมากทีสุ ด ิ ิ ก. มีโซสเฟี ยร์ ข. โทรโพสเฟี ยร์ ค. เอกโซสเฟี ยร์ ง. สตราโทสฟี ยร์ 4. เพราะเหตุใดถ้ามีวตถุจากนอกโลก เช่นอุกกาบาต เคลือนทีเข้ามาสู่ แรงดึงดูดของโลกจะเกิดการเผาไหม้ ั ในบรรยากาศชันมีโซสเฟี ยร์ ก. มีอุณหภูมิสูงทําให้เกิดการเสี ยดสี ลุกไหม้ได้ ข. มีแก๊สโอโซนปริ มาณมากพอทีสามารถทําให้เกิดการลุกไหม้ ค. มีแก๊สออกซิ เจนในปริ มาณมากพอทีสามารถทําให้เกิดการลุกไหม้ ง. เป็ นชันบรรยากาศทีมีปริ มาณไอนํามากทําให้เกิดการเสี ยดสี ลุกไหม้ได้ 5. แก๊สชนิดใดต่อไปนี พบในส่ วนผสมของอากาศน้ อยที สุ ด ก. อาร์ กอน ข. ออกซิ เจน ค. ไนโตรเจน ง. คาร์ บอนไดออกไซด์ 6. บรรยากาศชันใดทีมีการเปลียนแปลงของอากาศมากทีสุ ด ก. มีโซสเฟี ยร์ ข. โทรโพสเฟี ยร์ ค. เทอร์ โมสเฟี ยร์ ง. สตราโตสเฟี ยร์ 7. สิ งทีทําให้บรรยากาศแปรปรวนมากทีสุ ดคือข้อใด ก. ไอนํา ข. ฝุ่ นละอองในอากาศ ค. ปริ มาณแก๊สออกซิ เจน ง. รังสี จากดวงอาทิตย์ 8. บรรยากาศชันใดทําหน้าทีช่วยสะท้อนคลืนวิทยุกลับมายังผิวโลก ก. สตราโตสเฟี ยร์ ข. โทรโพสเฟี ยร์ ค. เอกโซสเฟี ยร์ ง. ไอโอโนสเฟี ยร์
  • 17. 17 9. ถ้าโลกของเราไม่มีบรรยากาศห่อหุ ม โลกจะมีลกษณะตามข้อใด ้ ั ก. ไม่มีแสงแดด ข. โลกจะมืดตลอดเวลา ค. ลมพัดแรงจัดตลอดเวลา ง. กลางวันร้อนจัด กลางคืนหนาวจัด 10. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกียวกับบรรยากาศชันโทรโพสเฟี ยร์ ่ ก. นักบินจะขับเครื องบินอยูในบรรยากาศชันนี ข. เป็ นชันบรรยากาศทีมีผลต่อการดํารงชี วตประจําวันของมนุษย์มากทีสุ ด ิ ค. เป็ นชันบรรยากาศทีอากาศมีความหนาแน่นมากทีสุ ด ง. นักอุตุนิยมวิทยานําข้อมูลจากบรรยากาศชันนีมาใช้ในการพยากรณ์อากาศ ่ 11. แก๊สโอโซนมีอยูในบรรยากาศชันใด ก. มีโซสเฟี ยร์ ข. เอกโซสเฟี ยร์ ค. สตราโตสเฟี ยร์ ง. โทรโพสเฟี ยร์ 12. ชันบรรยากาศของโลกไม่ฟุ้งกระจายออกไปสู่ อวกาศ เพราะเหตุใด ก. ชันโอโซนกันไว้ ข. แรงดึงดูดของโลก ค. แรงผลักจากดวงอาทิตย์ ง. ชันคาร์ บอนไดออกไซด์กนไว้ ั ่ ่ 13. อากาศทีอยูรอบตัวเราอยูในสถานะใด ก. แก๊ส ข. ของแข็ง ค. ของเหลว ง. สารแขวนลอย 14. บรรยากาศชันใดทีมีอุณหภูมิสูงทีสุ ด ก. โทรโพสเฟี ยร์ ข. มีโซสเฟี ยร์ ค. สตราโตสเฟี ยร์ ง. เทอร์ โมสเฟี ยร์
  • 18. 18 15. ข้อใดไม่ ใช่ ประโยชน์ของบรรยากาศ ก. ช่วยในการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ข. ช่วยปรับอุณหภูมิของโลกให้เหมาะสมกับสิ งมีชีวต ิ ค. ช่วยดูดกลืนรังสี ต่างๆไม่ให้ผานมายังโลกมากเกินไป ่ ง. ช่วยเสี ยดสี วตถุนอกโลกทําให้ลุกไหม้หมดหรื อมีขนาดเล็กลงก่อนมาถึงผิวโลก ั 16. บรรยากาศชันสตราโตสเฟี ยร์ มีความสําคัญต่อสิ งมีชีวตบนโลกอย่างไร ิ ก. มีปรากฏการณ์ต่างๆเช่น เมฆ หมอก ฝน ข. ช่วยสะท้อนคลืนวิทยุมายังสถานีบนพืนโลก ค. มีแก๊สโอโซนทีช่วยดูดกลืนรังสี อลตราไวโอเลต ั ง. ช่วยป้ องกันฝุ่ นละอองและสิ งแปลกปลอมทีมาจากนอกโลก 17. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องเกียวกับบรรยากาศชันไอโอโนสเฟี ยร์ ก. อุณหภูมิลดลงตามระดับความสู งทีเพิมขึน ข. มีความหนาวเย็นของบรรยากาศมากทีสุ ด ค. มีแก๊สไฮโดรเจนและแก๊สฮีเลียมเป็ นส่ วนใหญ่ ง. โมเลกุลของแก๊สแตกตัวเป็ นไอออนสะท้อนคลืนวิทยุได้ ตัวชี วัดข้ อที 8 ทดลองและอธิบายความสั มพันธ์ ระหว่ างอุณหภูมิ ความชื นและความกดอากาศทีมีผลต่ อ ปรากฏการณ์ ทางลมฟาอากาศ ้ 1. ในตอนกลางคืนอากาศเหนือพืนนําทะเลจะมีอุณหภูมิสูงกว่าอากาศเหนื อพืนดินเนื องจากสาเหตุใด ก. นําคายความร้อนได้ชากว่าดิน ้ ข. นําคายความร้อนได้เร็ วกว่าดิน ค. นําดูดความร้อนได้ชากว่าดิน ้ ง. นําดูดความร้อนได้เร็ วกว่าดิน ่ ั 2. การทีตากผ้าไว้แล้วผ้าแห้งเร็ วหรื อช้าขึนอยูกบสมบัติใดของอากาศ ก. ความกดอากาศ ข. ความชืนของอากาศ ค. อุณหภูมิของอากาศ ง. ความหนาแน่นของอากาศ 3. ในการทดลองพบว่า ปริ มาณของไอนําในอากาศในภาชนะทีปิ ดสนิทใบหนึงมีมวล 50 กรัมถ้าภาชนะ ใบนีมีปริ มาตร 0.5 ลูกบาศก์เมตร ความชืนสัมบูรณ์ของอากาศในภาชนะนีมีค่าเท่าไร ก. 1 กรัม/ลูกบาศก์เมตร ข. 5 กรัม/ลูกบาศก์เมตร ค. 10 กรัม/ลูกบาศก์เมตร ง. 100 กรัม/ลูกบาศก์เมตร
  • 19. 19 4. ณ ห้องปฏิบติการวิทยาศาสตร์ ชนมัธยมศึกษาปี ที 1 อากาศมีไอนําจริ ง 120 กรัม/ลูกบาศก์เมตร ถ้าใน ั ั ขณะนันอากาศอิมตัวด้วยไอนํา 200 กรัม/ลูกบาศก์เมตร ความชืนสัมพัทธ์ของอากาศมีค่าเท่าไร ก. 40 กรัม/ลูกบาศก์เมตร ข. 50 กรัม/ลูกบาศก์เมตร ค. 60 กรัม/ลูกบาศก์เมตร ง. 70 กรัม/ลูกบาศก์เมตร 5. เครื องบินลําหนึงบินอยูเ่ หนือนําทะเล วัดค่าความกดอากาศได้ 700 มิลลิเมตรปรอท อยากทราบว่า เครื องบินลํานีบินเหนื อระดับนําทะเลกีเมตร ก. 60 เมตร ข. 660 เมตร ค. 700 เมตร ง. 760 เมตร ตัวชี วัดข้ อที 9 สั งเกต วิเคราะห์ และอภิปรายการเกิดปรากฏการณ์ ทางลมฟาอากาศทีมีผลต่ อมนุษย์ ้ ่ ิ 1. ละอองนําขนาดเล็กทีเกิดจากการเย็นตัวของอากาศชืนทีลอยขึนสู งลอยอยูใกล้ผวโลกเรี ยกว่าอะไร ก. ฝน ข. เมฆ ค. หิ มะ ง. หมอก 2. ละอองนําในอากาศรวมตัวกันเป็ นหยดนําขนาดใหญ่มีนาหนักมากจนอากาศไม่สามารถอุมไว้ได้ตกลงมา ํ ้ ผ่านอากาศเย็นจัดรวมตัวกันกลายเป็ นเกล็ดของแข็งบนพืนดินเรี ยกว่าอะไร ก. ฝน ข. เมฆ ค. หิ มะ ง. ลูกเห็บ 3. การเคลือนทีของอากาศจากบริ เวณหนึงไปยังอีกบริ เวณหนึงเนื องจากอุณหภูมิของอากาศในสองบริ เวณ แตกต่างกันทําให้เกิดปรากฏการณ์ในข้อใด ก. เกิดฝน ข. เกิดลม ค. เกิดพายุ ง. เกิดลูกเห็บ
  • 20. 20 คําชี แจง ใช้ขอมูลต่อไปนี ตอบคําถามข้อ 4-5 ้ ตารางแสดงการเปลียนแปลงสภาพอากาศในรอบ 1 วัน เวลา 08.00 10.00 12.00 14.00 16.00 18.00 (นาฬิ กา) อุณหภูมิ 28 31 33 34 31 29 (องศาเซลเซียส) 4. จากข้อมูลเวลาใดทีอากาศมีอุณหภูมิสูงทีสุ ด ก. เวลา 10.00 นาฬิกา ข. เวลา 12.00 นาฬิกา ค. เวลา 14.00 นาฬิกา ง. เวลา 16.00 นาฬิกา 5. จากข้อมูล นักเรี ยนจะสรุ ปเกียวกับการเปลียนแปลงสภาพอากาศในรอบ 1 วันได้อย่างไร ก. อากาศในรอบหนึงวันเปลียนแปลงไม่มากนัก ข. อากาศในรอบหนึงวันรวมกันแล้วมากกว่าร้อยองศาเซลเซี ยส ค. อากาศในรอบหนึงวันในตอนเช้าอุณหภูมิจะค่อยๆสู งขึนและจะลดตําลงเรื อยๆ เมือเวลาเย็น ง. อากาศในรอบหนึงวันเปลียนแปลงไม่แน่นอนอาจสู งขึนในตอนเช้าหรื อลดลงใน ตอนเย็น หรื ออาจลดลงในตอนเช้าและเพิมขึนในตอนเย็น 6. ถ้านักเรี ยนต้องการทราบอุณหภูมิสูงสุ ดและตําสุ ดของอากาศในรอบหนึงวันนักเรี ยนจะเลือกใช้เครื องมือ ใดในการวัดอุณหภูมิ ก. เทอร์ มอกราฟ ข. เทอร์ มอมิเตอร์ แบบปรอท ค. เทอร์ มอมิเตอร์ แบบวัดไข้ ง. เทอร์ มอมิเตอร์ แบบเกณฑ์สูงสุ ดตําสุ ด 7. ไฮโกรมิเตอร์ แบบเส้นผมใช้วดปริ มาณใดและใช้หลักการตามข้อใด ั ก. วัดความชืนของอากาศและใช้หลักการอากาศชืนเส้นผมหดตัวอากาศแห้งเส้นผมยืดตัว ข. วัดความชืนของอากาศและใช้หลักการอากาศชืนเส้นผมยืดตัว อากาศแห้งเส้นผมหดตัว ค. วัดอุณหภูมิของอากาศและใช้หลักการอุณหภูมิสูงเส้นผมหดตัวอุณหภูมิตาเส้นผมยืดตัว ํ ง. วัดอุณหภูมิของอากาศและใช้หลักการอุณหภูมิสูงเส้นผมยืดตัวอุณหภูมิตาเส้นผมหดตัว ํ 8. บริ เวณใดควรมีอุณหภูมิตาทีสุ ด ํ ก. ชายทะเล ข. ภายในบ้าน ค. บนอาคารสู ง ง. บนยอดเขาสู ง
  • 21. 21 9. ถ้าร่ างกายรู ้สึกสบายๆ และสดชืน ความชืนสัมพัทธ์ควรมีค่าเท่าใด ก. 60 % ข. 70 % ค. 80 % ง. 90 % 10. ทีอุณหภูมิ 30 ° C มีไอนําอยูจริ งในอากาศ 20 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถ้าอากาศอิมตัวด้วยไอนํา 25 กรัมต่อ ่ ลูกบาศก์เมตร อากาศมีความชืนสัมพัทธ์เท่าไร ก. 50 % ข. 60 % ค. 70 % ง. 80 % 11. อากาศในห้องเรี ยนห้องหนึง มีอุณหภูมิ 25 ° C มีปริ มาตร 50 ลูกบาศก์เมตร มีไอนําอยู่ 250 กรัม อากาศในห้องนีจะมีความชืนสัมบูรณ์เท่าใด ก. 4 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร ข. 5 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค. 6 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร ง. 7 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร 12. เครื องมือทีใช้วดความชื นของอากาศคือข้อใด ั ก. บารอมิเตอร์ ข. ไฮกรอมิเตอร์ ค. เทอร์ มอมิเตอร์ ง. แอนิ รอยด์บารอมิเตอร์ ่ 13. นักกระโดดร่ มดิงพสุ ธาขณะลอยตําอยูในอากาศทีตําแหน่งหนึง อ่านความดันบรรยากาศได้ 500 ่ มิลลิเมตรของปรอท ขณะนันเขาอยูสูงจากระดับนําทะเลกีเมตร ก. 560 เมตร ข. 2,860 เมตร ค. 5,400 เมตร ง. 6,160 เมตร 14. ข้อใดคือความหมายของความดัน 1 บรรยากาศ ก. ความดันอากาศทีดันปรอทให้อยูสูง 76 mm ่ ่ ข. ความดันอากาศทีดันปรอทให้อยูสูง 76 cm ่ ค. ความดันอากาศทีดันปรอทให้อยูสูง 760 cm ่ ง. ความดันอากาศทีดันปรอทให้อยูสูง 760 m
  • 22. 22 ตัวชี วัดข้ อที 10 สื บค้ นวิเคราะห์ และแปลความหมายข้ อมูลจากการพยากรณ์ อากาศ 1. ในแผนทีอากาศ อักษร H และ อักษร L แสดงถึงอะไร ก. บริ เวณทีมีอุณหภูมิสูงและบริ เวณทีมีอุณหภูมิตา ํ ข. บริ เวณทีมีความชืนสู งและบริ เวณทีมีความชืนตํา ค. บริ เวณทีมีความเร็ วลมสู งและบริ เวณทีมีความเร็ วลมตํา ง. บริ เวณทีมีความกดอากาศสู งและบริ เวณทีมีความกดอากาศตํา 2. ในวันหนึงมีการพยากรณ์อากาศว่า อากาศเย็น ข้อใดแปลความหมายของการพยากรณ์ได้ถูกต้อง ก. อากาศมีอุณหภูมิตากว่า 15.9 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 8 องศาเซลเซี ยส ํ ข. อากาศมีอุณหภูมิตงแต่ 22.9 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 18 องศาเซลเซี ยส ั ค. อากาศมีอุณหภูมิตากว่า 8.0 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 0 องศาเซลเซี ยส ํ ง. อากาศมีอุณหภูมิตงแต่ 25.0 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 18 องศาเซลเซี ยส ั 3. เมฆสี ขาวเป็ นปุยคล้ายใยไหม มีลกษณะเป็ นเส้นต่อเนื องกันคล้ายขนนก คือเมฆชนิดใด ั ก. คิวมูลสั ข. เซอร์ รัส ค. สเตรตัส ง. อัลโตสเตรตัส ่ 4. เมฆในข้อใดทีมีลกษณะเป็ นชันเหนือหมอกลอยสู งจากพืนดินและมักปกคลุมอยูบริ เวณยอดเขา ั ก. คิวมูลส ั ข. เซอร์ รัส ค. สเตรตัส ง. อัลโตสเตรตัส 5. เมฆในข้อใดทีไม่จดอยูในกลุ่มเดียวกับพวก ั ่ ก. สเตรตัส ข. อัลโตคิวมูลส ั ค. สเตรโตคิวมูลส ั ง. นิมโบสเตรตัส 6. ฝนทีเกิดจากมวลอากาศร้อนกับมวลอากาศเย็นเคลือนเข้าชนกันและจะตกไม่แรงแต่ตกอย่างสมําเสมอ ติดต่อกันเป็ นเวลานานๆ ฝนชนิดนีคือฝนในข้อใด ก. ฝนภูเขา ข. ฝนพายุหมุน ค. ฝนแนวปะทะ ง. ฝนพาความร้อน
  • 23. 23 7. แดง ใช้ขวดนําอัดลมขนาดเล็กทําเครื องมือวัดนําฝนอย่างง่าย ส่ วนดํา ใช้ขวดนําอัดลมขนาดใหญ่ทา ํ เครื องมือวัดนําฝนอย่างง่าย แดงและดํานําเครื องมือวัดนําฝนอย่างง่ายไปวางไว้บริ เวณทีมีฝนตกอย่าง สมําเสมอเป็ นเวลาเท่ากัน ผลการทดลองทีได้ตรงกับข้อได้ ก. เครื องวัดนําฝนของแดงได้ปริ มาณนําฝนมากกว่าของดํา ข. เครื องวัดนําฝนของดําได้ปริ มาณนําฝนมากกว่าของแดง ค. เครื องวัดนําฝนของแดงและของดําวัดปริ มาณนําฝนได้เท่ากัน ง. เครื องมือทังสองคนใช้วดปริ มาณนําฝนไม่ได้เพราะหาปริ มาตรนําฝนไม่ได้ ั 8. เมฆทีก่อตัวในแนวดิงมักทําให้เกิดพายุฝนฟ้ าคะนอง และลมกรรโชกแรง คือเมฆชนิดใด ก. คิวมูลสั ข. อัลโตคิวมูลส ั ค. นิมโบสเตรตัส ง. คิวมูโลนิมบัส 9. อะไรคือสาเหตุทีทําให้เกิดเมฆ ก. ไอนําในอากาศอิมตัว ข. ไอนําในอากาศมีอุณหภูมิลดลง ค. ไอนําในอากาศเย็นตัวลงรวมตัวเป็ นกลุ่มละอองนํา ง. อากาศเย็นลอยตําลง อากาศร้อนลอยขึนไปกระทบความเย็น 10. เมฆต่างจากหมอกมากทีสุ ดในข้อใด ก. เมฆมีสีดา หมอกมีสีขาว ํ ข. เมฆมีความหนาแน่นมากกว่าหมอก ค. เมฆเกิดจากไอนํา หมอกเกิดจากอากาศ ง. เมฆเกิดในทีสู งกว่าหมอก 11. การวัดปริ มาณนําฝนเป็ นมิลลิเมตรคือการวัดสิ งใด ก. ขนาดของเม็ดฝน ข. ความสู งของนําฝนในภาชนะรองรับ ค. ระยะห่างระหว่างเม็ดฝน ง. ความสู งของนําฝนทีกระเด็นขึนเมือกระทบพืน 12. ข้อใดจัดเป็ นเมฆระดับสู ง ก. เมฆสเตรตัส ข. เมฆคิวมูลส ั ค. เมฆเซอรัส ง. เมฆนิมโบสเตรตัส
  • 24. 24 13. หิ มะบนพืนดินป้ องกันอากาศบริ เวณขัวโลกไม่ให้ได้รับความร้อนเพิมขึนได้อย่างไร ก. การให้ความร้อนโดยแก๊สเรื อนกระจก ข. ความร้อนกระจายมาจากเส้นศูนย์สูตร ค. การสะท้อนของรังสี จากดวงอาทิตย์ ง. การปล่อยความร้อนจากแก่นโลก ตัวชี วัดข้ อที 11 สื บค้ น วิเคราะห์ และอธิบายผลของลมฟาอากาศต่ อการดํารงชี วตของสิ งมีชีวตและ ้ ิ ิ สิ งแวดล้ อม 1. อาชีพใดทีได้รับผลกระทบจากการเปลียนแปลงของลมฟ้ าอากาศน้อยทีสุ ด ก. ครู ข. นักบิน ค. เกษตรกร ง. นักเดินเรื อ 2. ผลกระทบทีเกิดจากปรากฏการณ์เอลนี โญ คือข้อใด ก. บริ เวณทีเคยแห้งแล้งจะมีฝนตกชุกตลอดปี ข. บริ เวณทีมีฝนตกชุกจะมีความแห้งแล้งตลอดปี ค. บริ เวณทีมีฝนตกชุกจะมีฝนเพิมขึนและบริ เวณทีแห้งแล้งจะแห้งแล้งยิงขึน ง. บริ เวณทีมีฝนตกชุกปริ มาณฝนจะลดลงและบริ เวณทีแห้งแล้งจะมีฝนเพิมมากขึน 3. ผลกระทบทีเกิดจากปรากฏการณ์ ลานีญา คือข้อใด ก. บริ เวณทีเคยแห้งแล้งจะมีฝนตกชุกตลอดปี ข. บริ เวณทีมีฝนตกชุกจะมีความแห้งแล้งตลอดปี ค. บริ เวณทีมีฝนตกชุกจะมีฝนเพิมขึนและบริ เวณทีแห้งแล้งจะแห้งแล้งยิงขึน ง. บริ เวณทีมีฝนตกชุกปริ มาณฝนจะลดลงและบริ เวณทีแห้งแล้งจะมีฝนเพิมมากขึน 4. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องเกียวกับการพยากรณ์อากาศ ก. เป็ นการคาดคะเนลักษณะของอากาศล่วงหน้า ข. เป็ นการรายงานสิ งทีเกิดขึนในอากาศในรอบหนึงวัน ค. เป็ นการสรุ ปการเปลียนแปลงของอากาศในรอบหนึงปี ง. เป็ นการสุ่ มลักษณะของอากาศทีเกิดขึนในรอบหนึงสัปดาห์ 5. ถ้านักเรี ยนมองไปบนท้องฟ้ าพบว่ามีเมฆอยู่ ประมาณ 4 ส่ วนของท้ องฟา นักเรี ยนจะพยากรณ์อากาศ ้ เกียวกับเมฆอย่างไร ก. ท้องฟ้ าโปร่ ง ข. ท้องฟ้ าแจ่มใส ค. ท้องฟ้ ามีเมฆมาก ง. ท้องฟ้ ามีเมฆบางส่ วน
  • 25. 25 6. ในวันหนึงมีการพยากรณ์อากาศว่า อากาศเย็น ทะเลมีคลืนเล็กน้ อย ข้อใดแปลความหมายของการ พยากรณ์ได้ถูกต้อง ก. อากาศมีอุณหภูมิตากว่า 15.9 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 8 องศาเซลเซี ยส ํ และทะเลมีคลืนสู งไม่เกิน 0.5 เมตร ข. อากาศมีอุณหภูมิตงแต่ 22.9 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 18 องศาเซลเซี ยส ั และทะเลมีคลืนสู งไม่เกิน 0.5 เมตร ค. อากาศมีอุณหภูมิตากว่า 15.9 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 8 องศาเซลเซี ยส ํ และทะเลมีคลืนสู งเกินกว่า 0.5 เมตร ถึง 1.25 เมตร ง. อากาศมีอุณหภูมิตงแต่ 22.9 องศาเซลเซี ยส ลงไปถึง 18 องศาเซลเซี ยส ั และทะเลมีคลืนสู งเกินกว่า 0.5 เมตร ถึง 1.25 เมตร 7. ในการพยากรณ์อากาศอาศัยข้อมูลจากสิ งใด ก. บารอมิเตอร์ ข. อะนิโมมิเตอร์ ค. แผนทีอากาศ ง. เครื องวัดนําฝน 8. จงพิจารณาว่าข้อใดถูกต้อง ก. ถ้าหัวลูกศรของศรลมชีไปทางทิศใต้ แสดงว่าลมพัดมาจากทิศใต้ ข. หน่วยวัดปริ มาณนําฝนทีนิยมใช้ คือ เซนติเมตร ค. หยาดนําฟ้ า หมายถึง ฝนและลูกเห็บเท่านัน ง. ลมทะเลเกิดขึนในเวลากลางคืน 9. เครื องมือทีวัดทังทิศทางลมและอัตราเร็ วของลมเรี ยกว่าอะไร ก. ศรลม ข. แอโรเวน ค. บารอมิเตอร์ ง. อะนิโมมิเตอร์ 10. สมชายไปเทียวชายทะเลแห่งหนึง พบว่าคลืนทีซัดเข้าหาฝังมีความสู งประมาณ 1 เมตร แสดงว่าทะเล แห่งนันมีลกษณะอย่างไร ั ก. ทะเลเรี ยบ ข. ทะเลมีคลืนจัด ค. ทะเลมีคลืนเล็กน้อย ง. ทะเลมีคลืนปานกลาง
  • 26. 26 11. การพยากรณ์อากาศในข้อใดมีประโยชน์มากทีสุ ด ก. การบอกเวลาดวงอาทิตย์ขึนและตก ข. การประกาศให้ทราบล่วงหน้าเกียวกับพายุหมุน ค. การบอกอุณหภูมิสูงสุ ดและตําสุ ดในรอบ 24 ชัวโมง ง. การบอกปริ มาณฝนทีตกมากทีสุ ด หรื อน้อยทีสุ ดในรอบ 24 ชัวโมง ตัวชี วัดข้ อที 12 สื บค้ น วิเคราะห์ และอธิบายปัจจัยทางธรรมชาติและการกระทําของมนุษย์ ทมีผลต่ อการ ี เปลียนแปลงอุณหภูมิของโลก รู โหว่ โอโซนและฝนกรด 1. กิจกรรมใดทีไม่ ได้ ช่วยให้การเกิดปรากฏการณ์เรื อนกระจกบนโลกลดลง ก. การปลูกต้นไม้ ข. การงดใช้สารซี เอฟซี ค. การใช้ถ่านหิ นแทนนํามัน ง. การควบคุมการใช้เชือเพลิง 2. แก๊สในข้อใดทีไม่ มีผลทําให้อุณหภูมิของโลกสู งขึน ก. แก๊สมีเทน ข. แก๊สออกซิ เจน ค. แก๊สคาร์ บอนไดออกไซด์ ง แก๊สคลอโรฟลูออโรคาร์ บอน 3. “รู โหว่โอโซน” มีสาเหตุมาจากแก๊สชนิดใดมากทีสุ ด ก. แก๊สมีเทน ข. แก๊สออกซิ เจน ค. แก๊สคาร์ บอนไดออกไซด์ ง แก๊สคลอโรฟลูออโรคาร์ บอน 4. กระบวนการใดของธรรมชาติทีช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ ก. การหายใจของพืช ข. การหายใจของสัตว์ ค. การสร้างอาหารของพืช ง. การสร้างอาหารของสัตว์ 5. อากาศหนาวเย็นในฤดูหนาวของประเทศไทยได้รับอิทธิ พลจากข้อใด ก. หย่อมความกดอากาศตําจากมหาสมุทรอินเดีย ข. หย่อมความกดอากาศสู งจากมหาสมุทรอินเดีย ค. หย่อมความกดอากาศตําจากประเทศจีนและไซบีเรี ย ง. หย่อมความกดอากาศสู งจากประเทศจีนและไซบีเรี ย
  • 27. 27 6. พายุหมุนทีเกิดในบริ เวณทะเลจีนใต้ คือข้อใด ก. บาเกียว ข. ไซโคลน ค. ไต้ฝน ุ่ ง. เฮอริ เคน 7. ข้อใดเป็ นความเร็ วของพายุดีเปรสชัน ก. ไม่เกิน 63 กิโลเมตรต่อชัวโมง ข. ระหว่าง 63 – 118 กิโลเมตรต่อชัวโมง ค. ระหว่าง 118 – 150 กิโลเมตรต่อชัวโมง ง. มากกว่า 150 กิโลเมตรต่อชัวโมงขึนไป 8. ข้อใดทําให้ฤดูกาลในประเทศไทยแตกต่างจากประเทศในเขตร้อนอืนๆ ก. ลมมรสุ ม ข. พายุหมุนเขตร้อน ค. พายุฟ้าคะนอง ง. ปรากฏการณ์เรื อนกระจก 9. พายุหมุนเขตร้อนในข้อใดทีมีความรุ นแรงมากทีสุ ด ก. พายุโซนร้อน ข. พายุไต้ฝน ุ่ ค. พายุไซโคลน ง. พายุดีเปรสชัน 10. ลมบกเกิดในเวลาใด และพัดจากทีใดไปยังทีใด ก. กลางวัน พัดจากฝังออกสู่ ทะเล ข. กลางวัน พัดจากทะเลเข้าหาฝัง ค. กลางคืน พัดจากฝังออกสู่ ทะเล ง. กลางคืน พัดจากทะเลเข้าหาฝัง ตัวชี วัดข้ อที 13 สื บค้น วิเคราะห์และอธิ บายผลของภาวะโลกร้อน รู โหว่โอโซนและฝนกรด ทีมีต่อสิ ง ชีวตและสิ งแวดล้อม ิ 1. ปรากฏการณ์รูโหว่โอโซนเกิดในบรรยากาศชันใด ก. โทรโพสเฟี ยร์ ข. มีโซสเฟี ยร์ ค. สตราโตสเฟี ยร์ ง. เทอร์ โมสเฟี ยร์
  • 28. 28 2. การป้ องกันไม่ให้อากาศมีอุณหภูมิสูงขึน เนื องจากปรากฏการณ์เรื อนกระจกวิธีใดดีทีสุ ด ก. ดูรายการโทรทัศน์ให้นอยลง ้ ข. ลดการใช้เชือเพลิงให้มาก ค. ปลูกผักสวนครัวไว้ทุกบ้าน ง. งดเดินในห้างสรรพสิ นค้าทีมีเครื องปรับอากาศ 3. ข้อใดไม่ใช่ผลกระทบจากปรากฏการณ์เรื อนกระจก ก. อุณหภูมิของอากาศบนโลกสู งขึน ข. ระดับนําทะเลลดตําลง ค. ผลผลิตทางการเกษตรลดลง ง. ฤดูกาลบนโลกเปลียนแปลงไป 4. “ต้นไม้คือเพือนชีวต เจ้าดูดอากาศพิษแทนข้า” อากาศพิษทีกล่าวถึง คือแก๊สอะไร ิ ก. คาร์ บอนมอนอกไซด์ ข. คาร์ บอนไดออกไซด์ ค. ซัลเฟอร์ ไดออกไซด์ ง. ไนโตรเจนมอนอกไซด์ 5. การเปลียนแปลงอุณหภูมิของโลกเกิดจากสาเหตุใดมากทีสุ ด ก. วาตภัย ข. อุทกภัย ค. แผ่นดินไหว ง. กิจกรรมของมนุษย์ 6. ปรากฏการณ์เอลนีโญ เป็ นปรากฏการณ์ของลมฟ้ าอากาศทีส่ งผลกระทบรุ นแรงทีสุ ดในส่ วนใด ของโลก ก. มหาสมุทรแปซิ ฟิก ข. บริ เวณเส้นศูนย์สูตร ค. ทวีปทีอยูเ่ หนือและใต้เส้นศูนย์สูตร ง. มหาสมุทรอินเดียและเอเชี ยตะวันออกเฉี ยงใต้ 7. ข้อใดไม่ ได้ เป็ นผลกระทบทีเกิดจากการเปลียนแปลงอุณหภูมิของโลก ก. การเกิดแผ่นดินไหวเพิมขึน ข. การละลายของนําแข็งทีขัวโลกเพิมขึน ค. การเกิดความแปรปรวนของลมฟ้ าอากาศ ง. การเปลียนแปลงของระบบนิเวศและสิ งแวดล้อม