1. ระเบียบชมรมครูภาษาไทย
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต ๓
ว่าด้วย การบริหารชมรมครูภาษาไทย พ.ศ. ๒๕๕๓
............................................................
อาศัยมติที่ประชุมครูภาษาไทย สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต ๓ เมื่อวันที่
๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ ได้ประชุมคณะกรรมการบริหารชมรมครูภาษาไทย สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต ๓ ขึ้น คณะกรรมการบริหารชมรมจึงได้วางระเบียบไว้และแก้ไขฉบับเดิม
ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบชมรมครูภาษาไทย สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
บุรีรัมย์ เขต ๓ ว่าด้วย การบริหารชมรมครูภาษาไทย สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์
เขต ๓ พ.ศ. ๒๕๕๓”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่ วันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๓ เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในระเบียบนี้
“ครูภาษาไทย” หมายความว่า ครูผู้สอนภาษาไทย ในหน่วยงานทางการศึกษา สังกัด
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต ๓
“ชมรม” หมายความว่า ชมรมครูภาษาไทย ในหน่วยงานทางการศึกษา สังกัดสานักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต ๓
ข้อ ๔ ให้คระกรรมการบริหารชมรมครูภาษาไทย เป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอานาจ
ตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้
หมวด ๑
หมวดทั่วไป
ข้อ ๕ สานักงานของชมรมตั้งอยู่ที่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต ๓
ข้อ ๖ วัตถุประสงค์ของชมรมครูภาษาไทย เพื่อ
๑). ส่งเสริมกิจกรรมและพัฒนานักเรียนเกี่ยวกับภาษาไทย
๒). ส่งเสริมกิจกรรมและพัฒนาครูภาษาไทย
๓). ประสานความร่วมมือกับชมรม สมาคม และหน่วยงานวิชาการอื่น
หมวด ๒
สมาชิก
ข้อ ๗ สมาชิกของชมรมคือ ครูผู้สอนภาษาไทย ในหน่วยงานทางการศึกษาอื่นและสานักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต ๓ ที่ได้สมัครเป็นสมาชิก

2. หน้า ๒
ข้อ ๘ สมาชิกต้องยื่นใบสมัครตามแบบฟอร์มของชมรม และชาระเงินค่าบารุงตามที่ระเบียบกาหนด
แล้ว ถือว่าผู้นั้นเป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์
ข้อ ๙ บทบาทและหน้าที่ของสมาชิก
๑). ปฏิบัติตามระเบียบของชมรม
๒). เข้าร่วมประชุมและร่วมปฏิบัติกิจกรรมของชมรมอย่างสม่าเสมอ
๓). เสนอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานเพื่อความเจริญก้าวหน้าของชมรม
๔). ช่วยเหลือกิจกรรมของชมรมตามที่คณะกรรมการพิจารณามอบหมาย
๕). แจ้งข่าวสาร ช่วยประชาสัมพันธ์กิจกรรมของชมรมและประสานความร่วมมือกับ
หน่วยงานอื่น
๖). มีสิทธิ์เข้าประชุมใหญ่สามัญประจาปี แสดงความคิดเห็นและลงมติทั่วไป
ข้อ ๑๐ สิทธิของสมาชิก
๑). ได้รับเอกสารและข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาไทยตามที่ชมรมได้
จัดทาขึ้น
๒). ได้รับการพิจารณาร่วมเป็นกรรมการวิชาการ เข้าร่วมการประกวดต่างๆ ตลอดจน
การอบรมพัฒนาตนเองเพื่อความเจริญก้าวหน้าทางวิชาชีพ
๓). มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เผยแพร่ผลงานในที่ประชุมสมาชิกและเผยแพร่ผลงาน
ในเว็บไซต์ของชมรม
ข้อ ๑๑ การพ้นจากสมาชิก ในกรณีดังนี้
๑). ลาออก
๒). ตาย
หมวด ๓
คณะกรรมการดาเนินกิจการของชมรม
ข้อ ๑๒ คณะกรรมการดาเนินกิจการของชมรมประกอบด้วย
๑). คณะกรรมการที่ปรึกษา ไม่เกิน ๑๐ คน
๒). คณะกรรมการบริหารชมรม ประกอบด้วย ประธาน รองประธาน เหรัญญิก
เลขานุการ ปฏิคม และประชาสัมพันธ์
ข้อ ๑๓ การเลือกคณะกรรมการชมรม คัดเลือกจากสมาชิกครูภาษาไทยจากหน่วยงานทางการศึกษา
ข้อ ๑๔ การเลือกประธานกรรมการให้คณะกรรมการที่ได้รับการคัดเลือกแล้ว พิจารณาคัดเลือกจาก
กรรมการทั้งหมด

3. หน้า ๓
ข้อ ๑๕ ให้คณะกรรมการที่ได้รับการคัดเลือกแล้ว ประชุมพิจารณาคัดเลือกกรรมการเพิ่มเติมตาม
จานวนที่เห็นเหมาะสม
ข้อ ๑๖ ให้คณะกรรมการบริหารชมรม คัดเลือกกันเองเพื่อกาหนดตาแหน่งหน้าที่ และโครงสร้าง
การทางาน ตามที่เห็นสมควร
ข้อ ๑๗ การเลือกกรรมการที่ปรึกษา ให้คณะกรรมการบริหารชมรมเป็นผู้เสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมต่อ
ผู้มีอานาจวางระเบียบนี้ เพื่อคัดเลือกและเชิญมาเป็นกรรมการ โดยมีอายุเท่ากับวาระของกรรมการบริหาร
ชมรม
ข้อ ๑๘ คณะกรรมการบริหารชมรม อยู่ในตาแหน่งคราวละ ๓ ปีการศึกษา เมื่อกรรมการชุดเดิม
สิ้นสุดลงให้จัดทาบัญชีมอบหมายงานให้แก่กรรมการชุดใหม่ ภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง
ข้อ ๑๙ อานาจและหน้าที่ของกรรมการบริหารชมรม
คระกรรมการบริหารชมรม มีหน้าที่วางแผนและปฏิบัติงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
ของชมรม (ตามข้อ ๖) และตามที่กรรมการชมรมกาหนดเพิ่มเติม
หมวด ๔
การประชุม
ข้อ ๒๐ ให้คณะกรรมการบริหารชมรม ประชุมอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง
ข้อ ๒๑ การประชุมกรรมการบริหารชมรมจะต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งจึงจะ
ถือว่าครบองค์ประชุม มติของที่ประชุมให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้
ประธานกรรมการเป็นผู้ชี้ขาด
ข้อ ๒๒ การประชุมใหญ่สามัญ ควรจัดประชุมอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง เพื่อรายงานกิจการของชมรม
และพิจารณากาหนดภารกิจในการทางานปีต่อไป หรือจะใช้วิธีการประชุมชี้แจงอย่างอื่นตามที่เห็นสมควรก็
ได้ การลงมติใดๆ ให้นาวิธีการในข้อ ๒๑ มาบังคับใช้
หมวด ๕
การเงิน
ข้อ ๒๓ รายได้ของชมรม ได้จาก
๑). ค่าบารุงจากสมาชิก ตลอดชีพ ๑๐๐ บาท
๒). เงินสนับสนุนจากสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต ๓
๓). เงินหรือทรัพย์สินที่องค์การ หน่วยงาน หรือบุคคลบริจาคให้
๔). รายได้ที่เกิดจากการจัดกิจกรรมต่างๆ ของชมรม
๕). ดอกผลอันเกิดจากเงินหรือทรัพย์สินของชมรม

4. หน้า ๔
ข้อ ๒๔ ประธานกรรมการมีอานาจสั่งจ่ายเงิน เพื่อกิจการของชมรมได้คราวละไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท
ถ้าวงเงินเกินอานาจให้นาเสนอกรรมการบริหารชมรมเป็นผู้อนุมัติ เหรัญญิกมีอานาจเก็บเงินสดในมือเพื่อ
สารองจ่ายในกิจการของชมรมได้ไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท
ข้อ ๒๕ การเก็บรักษาเงิน ให้เหรัญญิก และประธานกรรมการ หรือผู้ทาการแทน รวมกัน ๓ คน
จัดฝากธนาคาร หรือสถาบันการเงินอื่น หรือนาไปหาดอกผลอื่นตามที่คณะกรรมการบริหารชมรมให้ความ
เห็นชอบ เงื่อนไขการเบิกจ่ายเงินต้องมีกรรมการลงนาม ๒ ใน ๓ คน
ข้อ ๒๖ การจ่ายเงินของชมรม ต้องมีหลักฐานเป็นเอกสาร โดยมีลายมือชื่อผู้อนุมัติและ
ผู้เบิกจ่ายลงนามทุกครั้ง
หมวด ๖
การแก้ไขระเบียบ และการเลิกชมรม
ข้อ ๒๗ การแก้ไขระเบียบของชมรม ให้สามารถทาได้ตามมติที่ประชุมกรรมการชมรม
ข้อ ๒๘ การเลิกชมรม จะกระทาได้เมื่อที่ประชุมใหญ่มาร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง
ข้อ ๒๙ เมื่อเลิกชมรมแล้ว ให้คณะกรรมการบริหารชมรม จานวน ๓ คน จัดทาบัญชีและโอน
ทรัพย์สิน (ถ้ามี) ให้แก่สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์เขต ๓ ภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่
วันเลิกชมรม
ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
(ลงชื่อ)....................................................
(นางอัจฉรา ฉายวิวัฒน์)
ประธานชมรมครูภาษาไทย
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต ๓