SlideShare a Scribd company logo
1 of 9
Download to read offline
1

                                                   ข้ อสอบ ชุ ดที่ 1
                            กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชั้ นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 เล่ม 1
แบบปรนัย
คาชี้แจง เลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำเดียว
1. เกณฑ์ การจาแนกสิ่ งมีชีวตเซลล์เดียวกับสิ่ งมีชีวต
                              ิ                        ิ       4. สิ่ งทีเ่ หมือนกันของสิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวกับ
   หลายเซลล์คืออะไร                                               สิ่ งมีชีวตหลายเซลล์คืออะไร
                                                                               ิ
  1 จำนวนเซลล์                                                    1 ขนำดของเซลล์
  2 ขนำดของเซลล์                                                  2 รู ปร่ ำงของเซลล์
  3 รู ปร่ ำงของเซลล์                                             3 ควำมแข็งของเซลล์
  4 ส่ วนประกอบของเซลล์                                          4 ส่ วนประกอบพื้นฐำนของเซลล์
2. “เซลล์ มีลักษณะค่ อนข้ างกลม มีส่วนที่เป็ นแขนยื่น          5. ส่ วนประกอบของเซลล์ที่พบในเซลล์พช แต่ ไม่ พบ
                                                                                                             ื
   ออกมาจากตัวเซลล์ เพื่อช่ วยส่ งกระแสความรู้ สึก                 ในเซลล์สัตว์คืออะไร
   ไปยังจุดอื่น” เซลล์ดังกล่าวคือเซลล์อะไร                        1 นิวเคลียส
   1 เซลล์อะมีบำ                                                  2 เยือหุมเซลล์
                                                                        ่ ้
  2 เซลล์ประสำท                                                   3 ไซโทพลำซึม
  3 เซลล์กล้ำมเนื้อ                                               4 คลอโรพลำสต์
  4 เซลล์เม็ดเลือดแดง                                          6. ส่ วนประกอบทีทาให้ เซลล์ พชแตกต่ างจากเซลล์
                                                                                       ่           ื
3. เพราะเหตุใดนักวิทยาศาสตร์ จึงจาแนกสิ่ งมีชีวต   ิ              สั ตว์คืออะไร
   ออกเป็ นสิ่ งมีชีวตเซลล์เดียวกับสิ่ งมีชีวตหลาย
                          ิ                  ิ                    1 ไซโทพลำซึ มกับไรโบโซม
   เซลล์                                                                 ่ ้             ั
                                                                  2 เยือหุ มเซลล์กบนิวเคลียส
  1 สิ่ งมีชีวตเซลล์เดียวมีควำมแข็งของเซลล์มำกกว่ำ
              ิ                                                                    ั
                                                                  3 ผนังเซลล์กบคลอโรพลำสต์
    สิ่ งมีชีวตหลำยเซลล์
                ิ                                                 4 ไมโทคอนเดรี ยกับนิวคลีโอลัส
  2 สิ่ งมีชีวตเซลล์เดียวมีส่วนประกอบพื้นฐำนของ
                  ิ                                            7. สิ่ งใดทีทาให้ เซลล์พชแตกต่ างจากเซลล์สัตว์
                                                                             ่               ื
    เซลล์ที่แตกต่ำงจำกสิ่ งมีชีวตหลำยเซลล์
                                    ิ                             1 ไซโทพลำซึ มกับไรโบโซม
  3 สิ่ งมีชีวตเซลล์เดียวมีรูปร่ ำงของเซลล์ที่เหมือนกัน
                    ิ                                                                      ั
                                                                  2 เยือหุ มเซลล์กบนิวเคลียส
                                                                          ่ ้
    ส่ วนสิ่ งมีชีวตหลำยเซลล์มีรูปร่ ำงของ เซลล์ที่
                        ิ                                                            ั
                                                                  3 ผนังเซลล์กบคลอโรพลำสต์
    แตกต่ำงกัน                                                    4 ไมโทคอนเดรี ยกับนิวคลีโอลัส
  4 สิ่ งมีชีวตเซลล์เดียวมีเพียงเซลล์เดียวก็ดำรงชีวต
                      ิ                              ิ
         ่
    อยูได้ แต่สิ่งมีชีวิตหลำยเซลล์ตองมีเซลล์มำรวม
                                      ้
    กลุ่มกันจึงจะดำรงชีวิตอยูได้  ่
2

8. เซลล์ พชมีอยู่ทส่วนใดของพืช
              ื     ี่                                12. เซลล์ทไม่ มีนิวเคลียสเป็ นส่ วนประกอบคือเซลล์
                                                                  ี่
   1 ใบและลำต้น ที่อื่น ๆ ไม่มี                            อะไร
   2 ปลำยใบและปลำยรำกเท่ำนั้น                              1 เซลล์ประสำท
   3 ใบและลำต้นกับที่ปลำยรำกเท่ำนั้น                       2 เซลล์กล้ำมเนื้อ
            ่
   4 มีอยูทุกส่ วนของพืช เพรำะพืชมีเซลล์เป็ น              3 เซลล์เยือบุขำงแก้ม
                                                                       ่ ้
     ส่ วนประกอบ                                           4 เซลล์เม็ดเลือดแดง
9. เมื่อเรานาเซลล์ ของใบสาหร่ ายหางกระรอกและ          13. ปัจจัยทีส่งผลต่ อความช้ าหรือเร็วของอัตราการ
                                                                     ่
   เซลล์ เยือหอมมาส่ องดูด้วยกล้ องจุลทรรศน์ เม็ดสี
                ่                                         แพร่ ของสารคืออะไร
   เขียวเล็ก ๆ ทีพบในเซลล์ของใบสาหร่ ายหาง
                  ่                                       1 ชนิดของสำร
   กระรอกแต่ ไม่ พบในเซลล์เยือหอมคืออะไร
                              ่                           2 ชนิดของเยือกั้น
                                                                         ่
  1 นิวเคลียส                                             3 ขนำดอนุภำคของสำร
  2 เยือหุมเซลล์
        ่ ้                                               4 ควำมแตกต่ำงระหว่ำงควำมเข้มข้นของสำร 2
  3 ไซโทพลำซึม                                              บริ เวณ
  4 คลอโรพลำสต์                                       14.                           จากรู ป อนุภาคทีแพร่  ่
10. ส่ วนประกอบของพืชทีทาหน้ าทีถ่ายทอดลักษณะ
                           ่         ่                                              เข้ าสู่ ลาต้ นได้ คืออะไร
     ทางพันธุกรรมจากพ่ อแม่ ไปสู่ ลกหลานคืออะไร
                                   ู
    1 ผนังเซลล์
    2 นิวเคลียส                                           1 น้ ำ น้ ำเกลือ
    3 เยือหุมเซลล์
         ่ ้                                              2 น้ ำ น้ ำตำลทรำย
    4 ไซโทพลำซึม                                          3 น้ ำ น้ ำตำลกลูโคส
11. ส่ วนประกอบของเซลล์พชทีทาหน้ าทีคล้ายยาม
                             ื ่        ่                 4 น้ ำ น้ ำเกลือ น้ ำตำลกลูโคส
     คืออะไร                                          15. ความแตกต่ างของการแพร่ กบออสโมซิสคืออะไร
                                                                                        ั
    1 ผนังเซลล์                                           1 ออสโมซิสเป็ นกำรเคลื่อนที่ของเยือบำง ๆ
                                                                                                 ่
    2 นิวเคลียส                                           2 กำรแพร่ ไม่ตองผ่ำนเยือบำง ๆ แต่ออสโมซิ ส
                                                                            ้        ่
    3 เยือหุมเซลล์
          ่ ้                                               ต้องผ่ำนเยือบำง ๆ
                                                                         ่
    4 ไซโทพลำซึม                                          3 กำรแพร่ เกิดจำกสำรเคลื่อนที่จำกที่ที่มีโมเลกุล
                                                            น้อยไปสู่ ที่ที่มีโมเลกุลมำกเท่ำนั้น
                                                          4 ถูกทุกข้อ
3

16. เมื่อหย่อนเกล็ดด่ างทับทิมลงในบีกเกอร์ ทบรรจุ
                                            ี่       19. นอกจากแสงอาทิตย์ แล้วพืชสามารถสั งเคราะห์
    นาจะเกิดการแพร่ กระจายขึน นักเรียนคิดว่าถ้ ามี
      ้                        ้                         ด้ วยแสงได้ ดีทสุดในแสงสี ใด
                                                                           ี่
    การเพิมอุณหภูมิให้ สูงขึน อัตราการแพร่ จะเป็ น
             ่              ้                           1 ส้ม
   อย่างไร                                              2 แดง
   1 ช้ำลง                                              3 เหลือง
   2 เร็ วขึ้น                                          4 น้ ำเงิน
   3 เท่ำเดิม                                        20. ข้ อความใดถูกต้ อง
   4 ไม่มีผลต่ออัตรำกำรแพร่                              1 กำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืชเกิดขึ้นที่บริ เวณ
                                                                                  ้
17. กระบวนการสั งเคราะห์ ด้วยแสงของพืชมีการ                   ใบเท่ำนั้น
    เปลียนแปลงดังนี้
         ่                                               2 พืชส่ งอำหำรไปเลี้ยงส่ วนต่ำง ๆ ของลำต้นใน
                                                              รู ปของน้ ำตำล
                                                         3 แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์เกิดจำกกระบวนกำร
                                                               สังเครำะห์ดวยแสง
                                                                              ้
                                                         4 แก๊สออกซิ เจนเป็ นวัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนกำร
   ถ้ า B เป็ นสารที่เข้ าทางปากใบของพืช A และ B               สังเครำะห์ดวยแสง ้
   คืออะไร                                           21. ในกระบวนการสั งเคราะห์ ด้วยแสงของพืชสิ่ งแรก
  1 น้ ำและแก๊สออกซิ เจน                                 ทีได้ คืออะไร
                                                            ่
  2 แก๊สออกซิ เจนและน้ ำ                                 1 น้ ำ
  3 แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์และน้ ำ                         2 แป้ ง
  4 น้ ำและแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์                         3 น้ ำตำล
18. สิ่ งทีไม่ ใช่ ปัจจัยทีสาคัญในกระบวนการ
           ่               ่                             4 แก๊สออกซิ เจน
    สั งเคราะห์ ด้วยแสงคืออะไร
   1 น้ ำ
   2 แสง
   3 ออกซิเจน
   4 คำร์บอนไดออกไซด์
4

22.                               จากรู ป เป็ นใบไม้ ที่   26.“ในบรรยากาศที่มีแก๊ สคาร์ บอนไดออกไซด์ น้อย
                                  สกัดคลอโรฟิ ลล์ออก           หรื อไม่ มีเลยจะมีผลต่ อการเจริ ญเติบโตของพืช”
                                  แล้วนาไปหยดสาร               นักเรียนเห็นด้ วยกับคากล่าวข้ างต้ นหรือไม่
                                  ละลายไอโอดีนได้ ผล           เพราะเหตุใด
     การทดลองดังรู ป นักเรี ยนคิดว่ าส่ วนใดของ                1 เห็นด้วย เพรำะพืชใช้แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์
      ใบไม้ ทไม่ มีการสั งเคราะห์ ด้วยแสง
               ี่                                                 สำหรับกำรหำยใจ
     1 1 และ 2                                                 2 เห็นด้วย เพรำะแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์เป็ น
     2 2 และ 3                                                   ปัจจัยสำคัญสำหรับกำรสังเครำะห์ดวยแสงของ
                                                                                                      ้
     3 3 และ 4                                                   พืช
     4 4 และ 1                                                 3 ไม่เห็นด้วย เพรำะพืชต้องกำรแก๊สออกซิ เจน
23. ผลิตภัณฑ์ ทได้ จากกระบวนการสั งเคราะห์ ด้วย
                  ี่                                              ช่วยในกำรเจริ ญเติบโตของพืช
    แสงคืออะไร                                                 4 ไม่เห็นด้วย เพรำะกำรสังเครำะห์ดวยแสงของ
                                                                                                    ้
    1 น้ ำตำล แป้ ง น้ ำ                                          พืชไม่จำเป็ นต้องใช้แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์
    2 น้ ำตำล แก๊สออกซิ เจน น้ ำ                           27. ผลดีทจะได้ รับจากการปลูกพืชในบริเวณทีเ่ กิด
                                                                      ี่
    3 แป้ ง น้ ำตำล คลอโรฟิ ลล์ น้ ำ                           มลภาวะของอากาศคืออะไร
    4 น้ ำตำล แก๊สออกซิ เจน คลอโรฟิ ลล์                        1 เพิ่มปริ มำณออกซิ เจนในอำกำศ
24. การทดสอบหาแปงในใบพืชทีถูกแสงกับใบพืชที่
                        ้           ่                                       ่
                                                               2 เป็ นที่อยูอำศัยของสัตว์นำนำชนิด
    ไม่ ถูกแสง มีสิ่งใดเป็ นตัวแปรต้ นและตัวแปรตาม             3 เป็ นแหล่งอำหำรและพลังงำนของสิ่ งมีชีวต   ิ
    1 แสงและแป้ ง                                              4 ทำให้ชุมชนบริ เวณนั้นมีควำมร่ มรื่ นสบำยตำ
    2 ขนำดใบพืชและแสง                                      28.                                  จากแผนภาพ
    3 แสงและชนิดของพืช                                                                          แก๊ส A ควรเป็ น
    4 ชนิดของพืชและปริ มำณแป้ ง                                                                 แก๊สอะไร
25. กระบวนการสั งเคราะห์ ด้วยแสงมีความสั มพันธ์
    กับสิ่ งใดมากทีสุด
                     ่
    1 ปริ มำณแร่ ธำตุอำหำรที่จำเป็ นในพื้นดิน                      1 ออกซิเจน
    2 ปริ มำณอำหำรที่จำเป็ นต่อสิ่ งมีชีวตทุกชนิ ด
                                         ิ                         2 ไนโตรเจน
                                      ่
    3 จำนวนพืชและสัตว์ที่อำศัยอยูในบริ เวณต่ำง ๆ                   3 ไฮโดรเจน
    4 กำรหมุนเวียนของแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์                         4 คำร์บอนไดออกไซด์
      และแก๊สออกซิ เจน
5

29. การศึกษาเนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ ของพืชต้ อง
                            ้ ่            ้                33. โครงสร้ างทีพชใช้ ในการลาเลียงนา–เกลือแร่ ขึนสู่
                                                                               ่ ื               ้          ้
     ใส่ หมึกแดงลงไปในนาที่แช่ ต้นพืชด้ วยเพราะเหตุ
                                       ้                        ลาต้ น กิง และใบคืออะไร
                                                                         ่
     ใด                                                         1 ไซเล็ม
    1 ช่วยให้พืชลำเลียงน้ ำได้ดีข้ ึน                           2 โฟลเอ็ม
    2 ช่วยให้พืชสังเครำะห์ดวยแสงดีข้ ึน  ้                      3 ระบบรำก
    3 ช่วยให้เห็นเซลล์ท่ีเป็ นส่ วนประกอบของลำต้น                4 แคมเบียม
       ชัดเจน                                               34. การคายนาของพืชมีความสาคัญต่ อกระบวนการ
                                                                           ้
    4 ช่วยให้เห็นเซลล์ท่ีเป็ นเนื้อเยื่อลำเลียงน้ ำ–เกลือ        ใด
         แร่ ชดเจน
               ั                                                1 หำยใจ
30. กลุ่มเซลล์ ททาหน้ าทีเ่ ป็ นท่ อลาเลียงนาพบได้ ใน
                         ี่                       ้             2 ลำเลียงน้ ำ
    ส่ วนใดของพืช                                               3 สร้ำงน้ ำตำล
   1 เฉพำะรำก                                                   4 สังเครำะห์ดวยแสง ้
   2 รำกและลำต้น                                            35. การคายนาของพืชไม่ มีส่วนช่ วยในกระบวนการ
                                                                             ้
   3 รำก ลำต้น และกิ่ง                                           ใด
   4 รำก ลำต้น กิ่ง และใบ                                       1 ลำเลียงเกลือแร่
31. ข้ อความใดถูกต้ อง                                          2 ลดอุณหภูมิที่ใบ
                 ่                           ่ ั่
    1 เนื้อเยือลำเลียงน้ ำ-เกลือแร่ มีอยูทวไปในลำต้น            3 ลำเลียงน้ ำทำงไซเล็ม
    2 เนื้อเยือลำเลียงน้ ำ–เกลือแร่ ไม่มีในพืชใบเลี้ยงคู่
                   ่                                            4 ลำเลียงอำหำรทำงโฟลเอ็ม
    3 เนื้อเยือลำเลียงน้ ำ–เกลือแร่ ไม่มีในพืชใบเลี้ยง
                     ่                                      36. เนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ ส่วนใหญ่ของพืชเป็ น
                                                                    ้ ่                  ้
       เดี่ยว                                                   เซลล์แบบใด
    4 เนื้อเยือลำเลียงน้ ำ–เกลือแร่ กระจำยทัวลำต้นใน
                       ่                            ่           1 เซลล์ที่มีชีวต ิ
         พืชใบเลี้ยงเดี่ยว                                      2 เซลล์ที่ตำยแล้ว
32. เนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ ในลาต้ นพืชใบเลียงคู่มี
        ้ ่                     ้                     ้         3 เซลล์ที่มีนิวเคลียส
    ลักษณะเป็ นแบบใด                                            4 เซลล์ที่มีไซโทพลำซึม
    1 เรี ยงกันอยูเ่ ป็ นวง                                 37. ส่ วนประกอบทีทาให้ ดอกครบส่ วนเหมือนกับ
                                                                                       ่
    2 กระจัดกระจำยอยูทวไป         ่ ั่                           ดอกสมบูรณ์ เพศคืออะไร
    3 อยูเ่ ป็ นกลุ่มตรงกลำงลำต้น                                1 มีรังไข่และกลีบดอก
    4 อยูเ่ ป็ นชั้น ๆ ระหว่ำงเซลล์                              2 มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอก
                                                                 3 มีเกสรเพศผูและเกสรเพศเมีย
                                                                                     ้
                                                                 4 มีกลีบเลี้ยง กลีบดอก และเกสรเพศผู ้
6

38. ข้ อสรุ ปใดถูกต้ อง                               42.                 จากรู ปขณะที่เมล็ดงอกจะได้
    1 ดอกครบส่ วนจะเป็ นดอกสมบูรณ์เพศเสมอ                           อาหารจากหมายเลขใด
    2 ดอกสมบูรณ์เพศต้องเป็ นดอกครบส่ วนเสมอ
    3 ดอกไม่ครบส่ วนต้องเป็ นดอกสมบูรณ์เพศเสมอ             11
    4 ดอกไม่สมบูรณ์เพศอำจจะเป็ นดอกครบส่ วนก็              22
       ได้                                                 33
39. ถ้ านักเรียนทดลองนาสารละลายนาตาลเข้ มข้ น
                                        ้                  44
    5% หยดลงบนสไลด์ ทมีอบเรณูของดอกแพง
                              ี่ ั                    43. คากล่าวใดไม่ ถกต้ อง
                                                                            ู
    พวยอยู่ จากนั้นสั งเกตการเปลียนแปลงที่เกิดขึน
                                   ่              ้       1 ถ้ำมีกำรถ่ำย(ละออง)เรณูแล้วจะต้องมีกำร
    ทุก ๆ 15 นาทีเป็ นเวลา 1 ชั่วโมง นักเรียนจะพบ            ปฏิสนธิ เกิดขึ้นเสมอ
    การเปลียนแปลงของสิ่ งใด
               ่                                          2 กำรถ่ำย(ละออง)เรณู ตองอำศัยลมน้ ำ สัตว์ หรื อ
                                                                                    ้
   1 ไม่เกิดกำรเปลี่ยนแปลงใด ๆ                               คนช่วยให้เกิดขึ้น
   2 ละอองเรณูของดอกแพงพวยลดจำนวนลง                       3 กำรถ่ำย(ละออง)เรณูในดอกเดียวกันจะเกิด
   3 สำรละลำยน้ ำตำลเข้มข้น 5% เพิ่มปริ มำณมำก               เฉพำะดอกสมบูรณ์เพศเท่ำนั้น
     ขึ้นเรื่ อย ๆ                                        4 กำรถ่ำย(ละออง)เรณู หมำยถึง กำรที่ละอองเรณู
   4 ละอองเรณูของดอกแพงพวยค่อย ๆ งอกหลอด                      ไปตกลงบนยอดเกสรเพศเมียเท่ำนั้น
     ยำวออกมำ                                         44. ถ้ าสมศักดิ์ต้องการจะปลูกส้ มเขียวหวานให้ มี
40. ส่ วนประกอบของดอกไม้ ถ้าเรียงจากชั้ นนอกสุ ด          ลักษณะผลและรสเหมือนต้ นพ่อแม่ แล้ว สมศักดิ์
    ไปยังชั้ นในสุ ดได้ แก่ อะไร                          ต้ องใช้ วธีการใด
                                                                    ิ
   1 กลีบเลี้ยง กลีบดอก อับเรณู รังไข่                    1 กำรติดตำ
   2 กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู ้ เกสรเพศเมีย           2 กำรตอนกิ่ง
   3 เกสรเพศเมีย เกสรเพศผู ้ กลีบดอก กลีบเลี้ยง           3 กำรทำบกิ่ง
   4 เกสรเพศเมีย เกสรเพศผู ้ ก้ำนเกสรเพศผู ้ รังไข่       4 กำรเพำะด้วยเมล็ด
41. การสื บพันธุ์แบบอาศัยเพศได้ แก่ วธีการใด
                                      ิ               45. พืชเศรษฐกิจทีนิยมใช้ วธีการเพาะเลียงเนื้อเยือพืช
                                                                          ่       ิ          ้        ่
    1 กำรปักชำ                                             ในการขยายพันธุ์ได้ แก่ พืชชนิดใด
    2 กำรต่อกิ่ง                                          1 ข้ำวโพด
    3 กำรแตกหน่อ                                          2 กล้วย ไม้
    4 กำรเพำะเมล็ด                                        3 ยำงพำรำ
                                                          4 มันสำปะหลัง
7

46. การเพาะเลียงพืชทีสามารถคัดเลือกพันธุ์ใหม่ ทดี
                  ้         ่                       ี่   50.“ดอกบัวจะหุบในตอนกลางคืนและบานในตอน
    ได้ คราวละมาก ๆ คืออะไร                                  กลางวัน” พฤติกรรมดังกล่าวเป็ นการตอบสนอง
   1 กำรชำ                                                   ต่ อสิ่ งเร้ าใด
   2 กำรตอน                                                  1 แสง
   3 กำรติดตำ                                                2 ควำมชื้น
   4 กำรเพำะเลี้ยงเนื้ อเยือพืช ่                            3 อุณหภูมิ
47. ส่ วนของพืชที่นิยมนามาใช้ ในการเพาะเลียง    ้            4 ควำมดันอำกำศ
    เนือเยือพืชคืออะไร
        ้ ่                                              51. การหุบของใบไมยราบอย่ างรวดเร็ว เมื่อเราแตะ
   1 ใบแก่ ๆ                                                 เบา ๆ เกิดจากการตอบสนองต่ อสิ่ งเร้ าใด
   2 กิ่งแก่ ๆ                                              1 แก๊ส
   3 รำกอ่อน                                                2 ควำมชื้น
   4 ปลำยยอดอ่อน                                            3 อุณหภูมิ
48. การตัดต่ อยีนโดยวิธีทางพันธุวศวกรรมทาได้ โดย
                                          ิ                 4 กำรสัมผัส
    วิธีใด                                               52. เซลล์ใดต่ อไปนีไม่ มีนิวเคลียส
                                                                                  ้
    1 นำพืชไปผสมข้ำมพันธุ์เพื่อให้ได้ยนใหม่   ี              1 เซลล์ประสำท
                        ั               ั
    2 แยกยีนที่มีลกษณะดีไวั้ใช้กบพันธุ์พืชพื้นเมือง          2 เซลล์เม็ดเลือดแดง
    3 ตัดยีนที่ตองกำรของพืช สัตว์ ไปใส่ ในเซลล์พืช
                    ้                                        3 เซลล์กล้ำมเนื้อลำย
       เพื่อให้เกิดเซลล์ใหม่ที่มีลกษณะตำมที่ตองกำร
                                      ั           ้          4 เซลล์กล้ำมเนื้อเรี ยบ
    4 เพำะเลี้ยงเซลล์พืชที่มีลกษณะที่ตองกำรใน
                                    ั       ้            53. เซลล์เม็ดเลือดแดงมีหน้ าทีอะไร  ่
       ห้องทดลอง แล้วนำยีนมำตัดแต่งโดยกำรเชื่ อม              1 นำแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ไปยังปอด
       ยีนที่มีลกษณะที่ตองกำรเข้ำด้วยกัน
                ั             ้                               2 นำแก๊สออกซิ เจนจำกปอดไปยังอวัยวะต่ำง ๆ
49. สาเหตุที่ทาให้ พชแสดงพฤติกรรมการตอบสนอง
                          ื                                   3 นำสำรที่เป็ นพิษต่อร่ ำงกำยไปกำจัดออกนอก
    โดยการเคลือนไหวแบบอัตโนมัติคืออะไร
                      ่                                          เซลล์
   1 ควำมเข้มแสง                                              4 ขนส่ งแก๊สออกซิ เจนและแก๊สคำร์ บอน
   2 อุณหภูมิของอำกำศ                                            ไดออกไซด์ไปยังเซลล์ต่ำง ๆ
                                  ่
   3 ปริ มำณควำมชื้นที่มีอยูในอำกำศ                      54. เม็ดสี เขียวทีเ่ ป็ นอวัยวะสร้ างอาหารภายในเซลล์
   4 กำรเปลี่ยนแปลงของแรงดันเต่งภำยในเซลล์                   พืชเรียกว่าอะไร
                                                             1 นิวเคลียส
                                                             2 คลอโรฟิ ลล์
                                                             3 ไซโทพลำซึม
                                                             4 คลอโรพลำสต์
8

55. ถ้ าเด็ดใบไม้ ในตอนเช้ ามืดมาทดสอบแปงจะพบ้              แสง
    หรือไม่ เพราะเหตุใด                                  3 คลอโรฟิ ลล์จำเป็ นต่อกำรสังเครำะห์ดวยแสง
                                                                                              ้
         1 พบ เพราะพืชมีการสั งเคราะห์ ด้วยแสง              ของพืช
         2 พบ เพราะพืชสะสมนาตาลไว้ ในรู ปของ
                                 ้                        4 ใบเป็ นตำแหน่งสำคัญในกำรสังเครำะห์ดวย  ้
            แปง
              ้                                              แสงของพืช
         3 ไม่ พบ เพราะแปงถูกเปลี่ยนเป็ นนาตาล
                           ้                   ้      58. กิจกรรมใดช่ วยเพิมอัตราการสั งเคราะห์ ด้วยแสง
                                                                                ่
         4 ไม่ พบ เพราะยังไม่ มีการสั งเคราะห์ ด้วย        ของพืช
            แสง                                            1 ใส่ ปุ๋ยเคมีให้พืชก่อนฝนตก
    11                                                     2 ใส่ ปุ๋ยเคมีให้พืชหลังฝนตก
    23                                                     3 เผำหญ้ำแห้งในเวลำกลำงวัน
    3 1 และ 2                                              4 เผำหญ้ำแห้งในเวลำกลำงคืน
    4 3 และ 4                                         59. การขาดธาตุใดทาให้ พชมีปริมาณคลอโรฟิ ลล์
                                                                                    ื
56. ข้ อความใดอธิบายการสั งเคราะห์ ด้วยแสงของ             ลดลง
    พืชได้ ถูกต้ อง                                       1 เหล็ก
    1 เปลี่ยนพลังงำนแสงเป็ นพลังงำนเคมี                   2 สังกะสี
    2 เปลี่ยนพลังงำนแสงเป็ นพลังงำนจลน์                   3 แคลเซียม
    3 เปลี่ยนพลังงำนศักย์เป็ นพลังงำนจลน์                4 แมกนีเซียม
    4 เปลี่ยนพลังงำนแสงเป็ นพลังงำนควำมร้อน           60. ความแตกต่ างของเนือเยื่อลาเลียงอาหารและ
                                                                                  ้
57. จากการทดสอบหาแปงในใบชบาด่ าง พบว่าส่ วนสี
                        ้                                  เนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ คืออะไร
                                                              ้ ่             ้
    ขาวของใบชบาด่ างไม่ มีแปง ข้ อสรุ ปทีเ่ หมาะสม
                               ้                           1 เซลล์ยงมีชีวต
                                                                      ั ิ
    กับกาทดลองนีคืออะไร
                    ้                                      2 ไม่มีนิวเคลียส
   1 กำรหำยใจเกิดขึ้นบริ เวณที่มีสีขำวของใบ               3 ลักษณะของท่อ
   2 กำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืชจำเป็ นต้องใช้
                      ้                                   4 ลักษณะของเซลล์
9

แบบอัตนัย
คาชี้แจง ตอบคำถำมต่อไปนี้ ให้ถูกต้อง
1. “ถ้ าต้ องการศึกษาเกี่ยวกับการเจริ ญเติบโตของพืช เราควรศึกษาการเจริ ญเติบโตของลาต้ นและใบของพืชนั้น”
นักเรี ยนเห็นด้วยกับคำกล่ำวนี้หรื อไม่ เพรำะเหตุใด


2. นักเรี ยนคิดว่ำเซลล์บริ เวณใดของพืชน่ำจะมีคลอโรพลำสต์มำก และถ้ำพืชไม่มีคลอโรพลำสต์อยูเ่ ลยจะมี
ผลกระทบต่อสิ่ งมีชีวตชนิดอื่นหรื อไม่
                     ิ


เฉลย ข้ อสอบกลางภาค ชุดที่ 1
แบบปรนัย
1. 1      2. 2      3. 4       4. 4    5. 4      6. 3      7. 3     8. 4   9. 4   10. 2 11. 3 12. 4 13. 4
14. 3 15. 2 16. 4 17. 4 18. 3 19. 4 20. 2 21. 3 22. 4 23. 2 24. 1 25. 4 26. 2
27. 1 28. 1 29. 4 30. 2 31. 4 32. 1 33. 1 34. 2 35. 4 36. 2 37. 3 38. 1 39. 4
40. 2 41. 4 42. 4 43. 1 44. 2 45. 2 46. 4 47. 4 48. 3 49. 4 50. 1 51. 4 52. 2
53. 4 54. 4 55. 4 56. 1 57. 3 58. 3 59. 1 60. 1
แบบอัตนัย
1. พืชต้องเปลี่ยนแป้ งเป็ นน้ ำตำลก่อนจะลำเลียงไปยังส่วนอื่น ๆ เพรำะ
          1) น้ ำตำลละลำยน้ ำได้
          2) น้ ำตำลที่มีกำรย่อยจะมีอนุภำคเล็ก เช่น น้ ำตำลกลูโคส จะทำให้สะดวกต่อกำรแพร่
                                                         ่
2. พืชมีคลอโรพลำสต์จำนวนมำกในไซโทพลำซึมที่อยูบริ เวณใบ คลอโรพลำสต์จะทำหน้ำที่สำคัญในกระบวนกำร สังเครำะห์ดวย       ้
                                                                  ่
แสงของพืช ได้น้ ำตำลเพื่อใช้ในกำรเจริ ญเติบโต และเก็บสะสมอยูในส่วนต่ำง ๆ ของพืช ถ้ำพืชไม่มี คลอโรพลำสต์จะไม่มีกำรสร้ำง
อำหำร ทำให้สิ่งมีชีวตที่กินพืชขำดอำหำร และส่งผลต่อสิ่ งมีชีวตชนิดอื่น ๆ ในโซ่ อำหำร อีกด้วย
                     ิ                                          ิ

More Related Content

What's hot

แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2dnavaroj
 
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน หน่วย พลังงานไฟฟ้า
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน  หน่วย พลังงานไฟฟ้าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน  หน่วย พลังงานไฟฟ้า
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน หน่วย พลังงานไฟฟ้าdnavaroj
 
ข้อสอบอัจฉริยะ
ข้อสอบอัจฉริยะข้อสอบอัจฉริยะ
ข้อสอบอัจฉริยะKodchaporn Siriket
 
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3Jariya Jaiyot
 
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะแบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะJariya Jaiyot
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมdnavaroj
 
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)Napadon Yingyongsakul
 
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อนAแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อนkrupornpana55
 
ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์Jariya Jaiyot
 
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพแบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพSirintip Arunmuang
 
แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่
แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่
แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่nik2529
 
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์สมศรี หอมเนียม
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)dnavaroj
 
การแยกสาร
การแยกสารการแยกสาร
การแยกสารtaew paichibi
 
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
SlชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะSlชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะkrupornpana55
 
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 3  พลังงานไฟฟ้าบทที่ 3  พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้าPinutchaya Nakchumroon
 
บทที่12 เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์
บทที่12 เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์บทที่12 เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์
บทที่12 เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์orasa1971
 
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศแบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศdnavaroj
 

What's hot (20)

แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
 
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน หน่วย พลังงานไฟฟ้า
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน  หน่วย พลังงานไฟฟ้าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน  หน่วย พลังงานไฟฟ้า
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธฺื๋ทางการเรียน หน่วย พลังงานไฟฟ้า
 
ข้อสอบอัจฉริยะ
ข้อสอบอัจฉริยะข้อสอบอัจฉริยะ
ข้อสอบอัจฉริยะ
 
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
แบบทดสอบดาราศาสตร์ ม.3
 
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะแบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
 
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
 
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อนAแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
 
ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์ใบงานพอลิเมอร์
ใบงานพอลิเมอร์
 
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพแบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
 
แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่
แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่
แบบฝึกหัดแรงและการเคลื่อนที่
 
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
 
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
 
เล่มที่ 4 การเคลื่อนที่ของคน
เล่มที่ 4 การเคลื่อนที่ของคนเล่มที่ 4 การเคลื่อนที่ของคน
เล่มที่ 4 การเคลื่อนที่ของคน
 
การแยกสาร
การแยกสารการแยกสาร
การแยกสาร
 
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
SlชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะSlชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
 
การแยกสาร (Purification)
การแยกสาร (Purification)การแยกสาร (Purification)
การแยกสาร (Purification)
 
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 3  พลังงานไฟฟ้าบทที่ 3  พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
 
บทที่12 เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์
บทที่12 เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์บทที่12 เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์
บทที่12 เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และผลิตภัณฑ์
 
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศแบบทดสอบ สาระที่ 7    ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
 

Viewers also liked

เซลล์พืชและเซลล์สัตว์
เซลล์พืชและเซลล์สัตว์เซลล์พืชและเซลล์สัตว์
เซลล์พืชและเซลล์สัตว์dnavaroj
 
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์Wann Rattiya
 
ดุลยภาพสิ่งมีชีวิต
ดุลยภาพสิ่งมีชีวิตดุลยภาพสิ่งมีชีวิต
ดุลยภาพสิ่งมีชีวิตWichai Likitponrak
 
ใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส
ใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส
ใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสAomiko Wipaporn
 
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต
เซลล์ของสิ่งมีชีวิตเซลล์ของสิ่งมีชีวิต
เซลล์ของสิ่งมีชีวิตพัน พัน
 
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์Kankamol Kunrat
 
ใบความรู้เรื่องเซลล์ของสิ่งมีชีวิต1
ใบความรู้เรื่องเซลล์ของสิ่งมีชีวิต1ใบความรู้เรื่องเซลล์ของสิ่งมีชีวิต1
ใบความรู้เรื่องเซลล์ของสิ่งมีชีวิต1Sumarin Sanguanwong
 

Viewers also liked (10)

เซลล์พืชและเซลล์สัตว์
เซลล์พืชและเซลล์สัตว์เซลล์พืชและเซลล์สัตว์
เซลล์พืชและเซลล์สัตว์
 
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
 
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
แบบฝึกหัดที่ 2 เซลล์พืช และเซลล์สัตว์
 
สรุปเซลล์
สรุปเซลล์สรุปเซลล์
สรุปเซลล์
 
ดุลยภาพสิ่งมีชีวิต
ดุลยภาพสิ่งมีชีวิตดุลยภาพสิ่งมีชีวิต
ดุลยภาพสิ่งมีชีวิต
 
ใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส
ใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส
ใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส
 
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต
เซลล์ของสิ่งมีชีวิตเซลล์ของสิ่งมีชีวิต
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต
 
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
 
ใบความรู้เรื่องเซลล์ของสิ่งมีชีวิต1
ใบความรู้เรื่องเซลล์ของสิ่งมีชีวิต1ใบความรู้เรื่องเซลล์ของสิ่งมีชีวิต1
ใบความรู้เรื่องเซลล์ของสิ่งมีชีวิต1
 
สรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
สรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐานสรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
สรุปวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
 

Similar to ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 1

หน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตหน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตsupreechafkk
 
ระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive system
ระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive systemระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive system
ระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive systemsupreechafkk
 
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตหน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตTakky Pinkgirl
 
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)Thanyamon Chat.
 
Pont มุนี
Pont มุนีPont มุนี
Pont มุนีmu_nin
 
เนื้อเยื่อชั้นต่างๆ ของราก
เนื้อเยื่อชั้นต่างๆ ของรากเนื้อเยื่อชั้นต่างๆ ของราก
เนื้อเยื่อชั้นต่างๆ ของรากBiobiome
 
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1dnavaroj
 
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตเรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตcivicton
 
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตเรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตcivicton
 
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตเรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตcivicton
 
บทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโตบทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโตฟลุ๊ค ลำพูน
 
รูปร่างลักษณะของเซลล์
รูปร่างลักษณะของเซลล์รูปร่างลักษณะของเซลล์
รูปร่างลักษณะของเซลล์dnavaroj
 
2ติวสสวทเซลล์
2ติวสสวทเซลล์2ติวสสวทเซลล์
2ติวสสวทเซลล์Wichai Likitponrak
 

Similar to ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 1 (20)

หน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตหน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
 
ระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive system
ระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive systemระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive system
ระบบสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต - Reprodutive system
 
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตหน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
 
4
44
4
 
4
44
4
 
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)
 
Microscope
MicroscopeMicroscope
Microscope
 
ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 2
ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 2ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 2
ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 2
 
B03
B03B03
B03
 
Pont มุนี
Pont มุนีPont มุนี
Pont มุนี
 
เนื้อเยื่อชั้นต่างๆ ของราก
เนื้อเยื่อชั้นต่างๆ ของรากเนื้อเยื่อชั้นต่างๆ ของราก
เนื้อเยื่อชั้นต่างๆ ของราก
 
ศูนย์ที่ 1 ชุดที่ 1.1
ศูนย์ที่ 1 ชุดที่ 1.1ศูนย์ที่ 1 ชุดที่ 1.1
ศูนย์ที่ 1 ชุดที่ 1.1
 
ศูนย์ที่ 1 ชุดที่ 1.1
ศูนย์ที่ 1 ชุดที่ 1.1ศูนย์ที่ 1 ชุดที่ 1.1
ศูนย์ที่ 1 ชุดที่ 1.1
 
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1
 
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตเรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
 
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตเรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
 
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตเรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
 
บทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโตบทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโต
 
รูปร่างลักษณะของเซลล์
รูปร่างลักษณะของเซลล์รูปร่างลักษณะของเซลล์
รูปร่างลักษณะของเซลล์
 
2ติวสสวทเซลล์
2ติวสสวทเซลล์2ติวสสวทเซลล์
2ติวสสวทเซลล์
 

More from สายฝน ต๊ะวันนา

ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553
ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553
ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553สายฝน ต๊ะวันนา
 
พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546
พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546
พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546สายฝน ต๊ะวันนา
 
พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551
พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551
พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551สายฝน ต๊ะวันนา
 
พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษาพรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษาสายฝน ต๊ะวันนา
 
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553สายฝน ต๊ะวันนา
 
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน25502 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550สายฝน ต๊ะวันนา
 
พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้น
พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้นพรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้น
พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้นสายฝน ต๊ะวันนา
 

More from สายฝน ต๊ะวันนา (20)

Hb5
Hb5Hb5
Hb5
 
5ข้อสอบ ชีววิทยา2 (82 75)
5ข้อสอบ ชีววิทยา2 (82 75)5ข้อสอบ ชีววิทยา2 (82 75)
5ข้อสอบ ชีววิทยา2 (82 75)
 
4ข้อสอบ ชีววิทยา (1 71)
4ข้อสอบ ชีววิทยา (1 71)4ข้อสอบ ชีววิทยา (1 71)
4ข้อสอบ ชีววิทยา (1 71)
 
ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553
ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553
ข้อบังคับคุรุสภา การทำผิดจรรยาบรรณ 2553
 
พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546
พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546
พรบ.ระเบียบบริหารส่วนราชการ 2546
 
พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551
พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551
พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ 2551
 
พรบ.คุ้มครองเด็ก 2546
พรบ.คุ้มครองเด็ก 2546พรบ.คุ้มครองเด็ก 2546
พรบ.คุ้มครองเด็ก 2546
 
พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษาพรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
 
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553
พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2553
 
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน25502 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550
2 พรบ.ระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน2550
 
อัตราว่าง
อัตราว่างอัตราว่าง
อัตราว่าง
 
พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้น
พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้นพรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้น
พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ขีดเส้น
 
โมเมนต์
โมเมนต์โมเมนต์
โมเมนต์
 
การเคลื่อนที่แบบแพนดูลัม
การเคลื่อนที่แบบแพนดูลัมการเคลื่อนที่แบบแพนดูลัม
การเคลื่อนที่แบบแพนดูลัม
 
การเคลื่อนที่แบบแพนดูลัม
การเคลื่อนที่แบบแพนดูลัมการเคลื่อนที่แบบแพนดูลัม
การเคลื่อนที่แบบแพนดูลัม
 
ตัวชี้วัด วิทย์ม 3
ตัวชี้วัด วิทย์ม 3ตัวชี้วัด วิทย์ม 3
ตัวชี้วัด วิทย์ม 3
 
Sb2
Sb2Sb2
Sb2
 
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด d
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด dวิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด d
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด d
 
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด c
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด cวิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด c
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2553 ชุด c
 
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2552
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2552วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2552
วิทย์ม.3 ปีการศึกษา 2552
 

ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 1

  • 1. 1 ข้ อสอบ ชุ ดที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชั้ นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 เล่ม 1 แบบปรนัย คาชี้แจง เลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำเดียว 1. เกณฑ์ การจาแนกสิ่ งมีชีวตเซลล์เดียวกับสิ่ งมีชีวต ิ ิ 4. สิ่ งทีเ่ หมือนกันของสิ่ งมีชีวิตเซลล์เดียวกับ หลายเซลล์คืออะไร สิ่ งมีชีวตหลายเซลล์คืออะไร ิ 1 จำนวนเซลล์ 1 ขนำดของเซลล์ 2 ขนำดของเซลล์ 2 รู ปร่ ำงของเซลล์ 3 รู ปร่ ำงของเซลล์ 3 ควำมแข็งของเซลล์ 4 ส่ วนประกอบของเซลล์ 4 ส่ วนประกอบพื้นฐำนของเซลล์ 2. “เซลล์ มีลักษณะค่ อนข้ างกลม มีส่วนที่เป็ นแขนยื่น 5. ส่ วนประกอบของเซลล์ที่พบในเซลล์พช แต่ ไม่ พบ ื ออกมาจากตัวเซลล์ เพื่อช่ วยส่ งกระแสความรู้ สึก ในเซลล์สัตว์คืออะไร ไปยังจุดอื่น” เซลล์ดังกล่าวคือเซลล์อะไร 1 นิวเคลียส 1 เซลล์อะมีบำ 2 เยือหุมเซลล์ ่ ้ 2 เซลล์ประสำท 3 ไซโทพลำซึม 3 เซลล์กล้ำมเนื้อ 4 คลอโรพลำสต์ 4 เซลล์เม็ดเลือดแดง 6. ส่ วนประกอบทีทาให้ เซลล์ พชแตกต่ างจากเซลล์ ่ ื 3. เพราะเหตุใดนักวิทยาศาสตร์ จึงจาแนกสิ่ งมีชีวต ิ สั ตว์คืออะไร ออกเป็ นสิ่ งมีชีวตเซลล์เดียวกับสิ่ งมีชีวตหลาย ิ ิ 1 ไซโทพลำซึ มกับไรโบโซม เซลล์ ่ ้ ั 2 เยือหุ มเซลล์กบนิวเคลียส 1 สิ่ งมีชีวตเซลล์เดียวมีควำมแข็งของเซลล์มำกกว่ำ ิ ั 3 ผนังเซลล์กบคลอโรพลำสต์ สิ่ งมีชีวตหลำยเซลล์ ิ 4 ไมโทคอนเดรี ยกับนิวคลีโอลัส 2 สิ่ งมีชีวตเซลล์เดียวมีส่วนประกอบพื้นฐำนของ ิ 7. สิ่ งใดทีทาให้ เซลล์พชแตกต่ างจากเซลล์สัตว์ ่ ื เซลล์ที่แตกต่ำงจำกสิ่ งมีชีวตหลำยเซลล์ ิ 1 ไซโทพลำซึ มกับไรโบโซม 3 สิ่ งมีชีวตเซลล์เดียวมีรูปร่ ำงของเซลล์ที่เหมือนกัน ิ ั 2 เยือหุ มเซลล์กบนิวเคลียส ่ ้ ส่ วนสิ่ งมีชีวตหลำยเซลล์มีรูปร่ ำงของ เซลล์ที่ ิ ั 3 ผนังเซลล์กบคลอโรพลำสต์ แตกต่ำงกัน 4 ไมโทคอนเดรี ยกับนิวคลีโอลัส 4 สิ่ งมีชีวตเซลล์เดียวมีเพียงเซลล์เดียวก็ดำรงชีวต ิ ิ ่ อยูได้ แต่สิ่งมีชีวิตหลำยเซลล์ตองมีเซลล์มำรวม ้ กลุ่มกันจึงจะดำรงชีวิตอยูได้ ่
  • 2. 2 8. เซลล์ พชมีอยู่ทส่วนใดของพืช ื ี่ 12. เซลล์ทไม่ มีนิวเคลียสเป็ นส่ วนประกอบคือเซลล์ ี่ 1 ใบและลำต้น ที่อื่น ๆ ไม่มี อะไร 2 ปลำยใบและปลำยรำกเท่ำนั้น 1 เซลล์ประสำท 3 ใบและลำต้นกับที่ปลำยรำกเท่ำนั้น 2 เซลล์กล้ำมเนื้อ ่ 4 มีอยูทุกส่ วนของพืช เพรำะพืชมีเซลล์เป็ น 3 เซลล์เยือบุขำงแก้ม ่ ้ ส่ วนประกอบ 4 เซลล์เม็ดเลือดแดง 9. เมื่อเรานาเซลล์ ของใบสาหร่ ายหางกระรอกและ 13. ปัจจัยทีส่งผลต่ อความช้ าหรือเร็วของอัตราการ ่ เซลล์ เยือหอมมาส่ องดูด้วยกล้ องจุลทรรศน์ เม็ดสี ่ แพร่ ของสารคืออะไร เขียวเล็ก ๆ ทีพบในเซลล์ของใบสาหร่ ายหาง ่ 1 ชนิดของสำร กระรอกแต่ ไม่ พบในเซลล์เยือหอมคืออะไร ่ 2 ชนิดของเยือกั้น ่ 1 นิวเคลียส 3 ขนำดอนุภำคของสำร 2 เยือหุมเซลล์ ่ ้ 4 ควำมแตกต่ำงระหว่ำงควำมเข้มข้นของสำร 2 3 ไซโทพลำซึม บริ เวณ 4 คลอโรพลำสต์ 14. จากรู ป อนุภาคทีแพร่ ่ 10. ส่ วนประกอบของพืชทีทาหน้ าทีถ่ายทอดลักษณะ ่ ่ เข้ าสู่ ลาต้ นได้ คืออะไร ทางพันธุกรรมจากพ่ อแม่ ไปสู่ ลกหลานคืออะไร ู 1 ผนังเซลล์ 2 นิวเคลียส 1 น้ ำ น้ ำเกลือ 3 เยือหุมเซลล์ ่ ้ 2 น้ ำ น้ ำตำลทรำย 4 ไซโทพลำซึม 3 น้ ำ น้ ำตำลกลูโคส 11. ส่ วนประกอบของเซลล์พชทีทาหน้ าทีคล้ายยาม ื ่ ่ 4 น้ ำ น้ ำเกลือ น้ ำตำลกลูโคส คืออะไร 15. ความแตกต่ างของการแพร่ กบออสโมซิสคืออะไร ั 1 ผนังเซลล์ 1 ออสโมซิสเป็ นกำรเคลื่อนที่ของเยือบำง ๆ ่ 2 นิวเคลียส 2 กำรแพร่ ไม่ตองผ่ำนเยือบำง ๆ แต่ออสโมซิ ส ้ ่ 3 เยือหุมเซลล์ ่ ้ ต้องผ่ำนเยือบำง ๆ ่ 4 ไซโทพลำซึม 3 กำรแพร่ เกิดจำกสำรเคลื่อนที่จำกที่ที่มีโมเลกุล น้อยไปสู่ ที่ที่มีโมเลกุลมำกเท่ำนั้น 4 ถูกทุกข้อ
  • 3. 3 16. เมื่อหย่อนเกล็ดด่ างทับทิมลงในบีกเกอร์ ทบรรจุ ี่ 19. นอกจากแสงอาทิตย์ แล้วพืชสามารถสั งเคราะห์ นาจะเกิดการแพร่ กระจายขึน นักเรียนคิดว่าถ้ ามี ้ ้ ด้ วยแสงได้ ดีทสุดในแสงสี ใด ี่ การเพิมอุณหภูมิให้ สูงขึน อัตราการแพร่ จะเป็ น ่ ้ 1 ส้ม อย่างไร 2 แดง 1 ช้ำลง 3 เหลือง 2 เร็ วขึ้น 4 น้ ำเงิน 3 เท่ำเดิม 20. ข้ อความใดถูกต้ อง 4 ไม่มีผลต่ออัตรำกำรแพร่ 1 กำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืชเกิดขึ้นที่บริ เวณ ้ 17. กระบวนการสั งเคราะห์ ด้วยแสงของพืชมีการ ใบเท่ำนั้น เปลียนแปลงดังนี้ ่ 2 พืชส่ งอำหำรไปเลี้ยงส่ วนต่ำง ๆ ของลำต้นใน รู ปของน้ ำตำล 3 แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์เกิดจำกกระบวนกำร สังเครำะห์ดวยแสง ้ 4 แก๊สออกซิ เจนเป็ นวัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนกำร ถ้ า B เป็ นสารที่เข้ าทางปากใบของพืช A และ B สังเครำะห์ดวยแสง ้ คืออะไร 21. ในกระบวนการสั งเคราะห์ ด้วยแสงของพืชสิ่ งแรก 1 น้ ำและแก๊สออกซิ เจน ทีได้ คืออะไร ่ 2 แก๊สออกซิ เจนและน้ ำ 1 น้ ำ 3 แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์และน้ ำ 2 แป้ ง 4 น้ ำและแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ 3 น้ ำตำล 18. สิ่ งทีไม่ ใช่ ปัจจัยทีสาคัญในกระบวนการ ่ ่ 4 แก๊สออกซิ เจน สั งเคราะห์ ด้วยแสงคืออะไร 1 น้ ำ 2 แสง 3 ออกซิเจน 4 คำร์บอนไดออกไซด์
  • 4. 4 22. จากรู ป เป็ นใบไม้ ที่ 26.“ในบรรยากาศที่มีแก๊ สคาร์ บอนไดออกไซด์ น้อย สกัดคลอโรฟิ ลล์ออก หรื อไม่ มีเลยจะมีผลต่ อการเจริ ญเติบโตของพืช” แล้วนาไปหยดสาร นักเรียนเห็นด้ วยกับคากล่าวข้ างต้ นหรือไม่ ละลายไอโอดีนได้ ผล เพราะเหตุใด การทดลองดังรู ป นักเรี ยนคิดว่ าส่ วนใดของ 1 เห็นด้วย เพรำะพืชใช้แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ ใบไม้ ทไม่ มีการสั งเคราะห์ ด้วยแสง ี่ สำหรับกำรหำยใจ 1 1 และ 2 2 เห็นด้วย เพรำะแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์เป็ น 2 2 และ 3 ปัจจัยสำคัญสำหรับกำรสังเครำะห์ดวยแสงของ ้ 3 3 และ 4 พืช 4 4 และ 1 3 ไม่เห็นด้วย เพรำะพืชต้องกำรแก๊สออกซิ เจน 23. ผลิตภัณฑ์ ทได้ จากกระบวนการสั งเคราะห์ ด้วย ี่ ช่วยในกำรเจริ ญเติบโตของพืช แสงคืออะไร 4 ไม่เห็นด้วย เพรำะกำรสังเครำะห์ดวยแสงของ ้ 1 น้ ำตำล แป้ ง น้ ำ พืชไม่จำเป็ นต้องใช้แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ 2 น้ ำตำล แก๊สออกซิ เจน น้ ำ 27. ผลดีทจะได้ รับจากการปลูกพืชในบริเวณทีเ่ กิด ี่ 3 แป้ ง น้ ำตำล คลอโรฟิ ลล์ น้ ำ มลภาวะของอากาศคืออะไร 4 น้ ำตำล แก๊สออกซิ เจน คลอโรฟิ ลล์ 1 เพิ่มปริ มำณออกซิ เจนในอำกำศ 24. การทดสอบหาแปงในใบพืชทีถูกแสงกับใบพืชที่ ้ ่ ่ 2 เป็ นที่อยูอำศัยของสัตว์นำนำชนิด ไม่ ถูกแสง มีสิ่งใดเป็ นตัวแปรต้ นและตัวแปรตาม 3 เป็ นแหล่งอำหำรและพลังงำนของสิ่ งมีชีวต ิ 1 แสงและแป้ ง 4 ทำให้ชุมชนบริ เวณนั้นมีควำมร่ มรื่ นสบำยตำ 2 ขนำดใบพืชและแสง 28. จากแผนภาพ 3 แสงและชนิดของพืช แก๊ส A ควรเป็ น 4 ชนิดของพืชและปริ มำณแป้ ง แก๊สอะไร 25. กระบวนการสั งเคราะห์ ด้วยแสงมีความสั มพันธ์ กับสิ่ งใดมากทีสุด ่ 1 ปริ มำณแร่ ธำตุอำหำรที่จำเป็ นในพื้นดิน 1 ออกซิเจน 2 ปริ มำณอำหำรที่จำเป็ นต่อสิ่ งมีชีวตทุกชนิ ด ิ 2 ไนโตรเจน ่ 3 จำนวนพืชและสัตว์ที่อำศัยอยูในบริ เวณต่ำง ๆ 3 ไฮโดรเจน 4 กำรหมุนเวียนของแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ 4 คำร์บอนไดออกไซด์ และแก๊สออกซิ เจน
  • 5. 5 29. การศึกษาเนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ ของพืชต้ อง ้ ่ ้ 33. โครงสร้ างทีพชใช้ ในการลาเลียงนา–เกลือแร่ ขึนสู่ ่ ื ้ ้ ใส่ หมึกแดงลงไปในนาที่แช่ ต้นพืชด้ วยเพราะเหตุ ้ ลาต้ น กิง และใบคืออะไร ่ ใด 1 ไซเล็ม 1 ช่วยให้พืชลำเลียงน้ ำได้ดีข้ ึน 2 โฟลเอ็ม 2 ช่วยให้พืชสังเครำะห์ดวยแสงดีข้ ึน ้ 3 ระบบรำก 3 ช่วยให้เห็นเซลล์ท่ีเป็ นส่ วนประกอบของลำต้น 4 แคมเบียม ชัดเจน 34. การคายนาของพืชมีความสาคัญต่ อกระบวนการ ้ 4 ช่วยให้เห็นเซลล์ท่ีเป็ นเนื้อเยื่อลำเลียงน้ ำ–เกลือ ใด แร่ ชดเจน ั 1 หำยใจ 30. กลุ่มเซลล์ ททาหน้ าทีเ่ ป็ นท่ อลาเลียงนาพบได้ ใน ี่ ้ 2 ลำเลียงน้ ำ ส่ วนใดของพืช 3 สร้ำงน้ ำตำล 1 เฉพำะรำก 4 สังเครำะห์ดวยแสง ้ 2 รำกและลำต้น 35. การคายนาของพืชไม่ มีส่วนช่ วยในกระบวนการ ้ 3 รำก ลำต้น และกิ่ง ใด 4 รำก ลำต้น กิ่ง และใบ 1 ลำเลียงเกลือแร่ 31. ข้ อความใดถูกต้ อง 2 ลดอุณหภูมิที่ใบ ่ ่ ั่ 1 เนื้อเยือลำเลียงน้ ำ-เกลือแร่ มีอยูทวไปในลำต้น 3 ลำเลียงน้ ำทำงไซเล็ม 2 เนื้อเยือลำเลียงน้ ำ–เกลือแร่ ไม่มีในพืชใบเลี้ยงคู่ ่ 4 ลำเลียงอำหำรทำงโฟลเอ็ม 3 เนื้อเยือลำเลียงน้ ำ–เกลือแร่ ไม่มีในพืชใบเลี้ยง ่ 36. เนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ ส่วนใหญ่ของพืชเป็ น ้ ่ ้ เดี่ยว เซลล์แบบใด 4 เนื้อเยือลำเลียงน้ ำ–เกลือแร่ กระจำยทัวลำต้นใน ่ ่ 1 เซลล์ที่มีชีวต ิ พืชใบเลี้ยงเดี่ยว 2 เซลล์ที่ตำยแล้ว 32. เนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ ในลาต้ นพืชใบเลียงคู่มี ้ ่ ้ ้ 3 เซลล์ที่มีนิวเคลียส ลักษณะเป็ นแบบใด 4 เซลล์ที่มีไซโทพลำซึม 1 เรี ยงกันอยูเ่ ป็ นวง 37. ส่ วนประกอบทีทาให้ ดอกครบส่ วนเหมือนกับ ่ 2 กระจัดกระจำยอยูทวไป ่ ั่ ดอกสมบูรณ์ เพศคืออะไร 3 อยูเ่ ป็ นกลุ่มตรงกลำงลำต้น 1 มีรังไข่และกลีบดอก 4 อยูเ่ ป็ นชั้น ๆ ระหว่ำงเซลล์ 2 มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอก 3 มีเกสรเพศผูและเกสรเพศเมีย ้ 4 มีกลีบเลี้ยง กลีบดอก และเกสรเพศผู ้
  • 6. 6 38. ข้ อสรุ ปใดถูกต้ อง 42. จากรู ปขณะที่เมล็ดงอกจะได้ 1 ดอกครบส่ วนจะเป็ นดอกสมบูรณ์เพศเสมอ อาหารจากหมายเลขใด 2 ดอกสมบูรณ์เพศต้องเป็ นดอกครบส่ วนเสมอ 3 ดอกไม่ครบส่ วนต้องเป็ นดอกสมบูรณ์เพศเสมอ 11 4 ดอกไม่สมบูรณ์เพศอำจจะเป็ นดอกครบส่ วนก็ 22 ได้ 33 39. ถ้ านักเรียนทดลองนาสารละลายนาตาลเข้ มข้ น ้ 44 5% หยดลงบนสไลด์ ทมีอบเรณูของดอกแพง ี่ ั 43. คากล่าวใดไม่ ถกต้ อง ู พวยอยู่ จากนั้นสั งเกตการเปลียนแปลงที่เกิดขึน ่ ้ 1 ถ้ำมีกำรถ่ำย(ละออง)เรณูแล้วจะต้องมีกำร ทุก ๆ 15 นาทีเป็ นเวลา 1 ชั่วโมง นักเรียนจะพบ ปฏิสนธิ เกิดขึ้นเสมอ การเปลียนแปลงของสิ่ งใด ่ 2 กำรถ่ำย(ละออง)เรณู ตองอำศัยลมน้ ำ สัตว์ หรื อ ้ 1 ไม่เกิดกำรเปลี่ยนแปลงใด ๆ คนช่วยให้เกิดขึ้น 2 ละอองเรณูของดอกแพงพวยลดจำนวนลง 3 กำรถ่ำย(ละออง)เรณูในดอกเดียวกันจะเกิด 3 สำรละลำยน้ ำตำลเข้มข้น 5% เพิ่มปริ มำณมำก เฉพำะดอกสมบูรณ์เพศเท่ำนั้น ขึ้นเรื่ อย ๆ 4 กำรถ่ำย(ละออง)เรณู หมำยถึง กำรที่ละอองเรณู 4 ละอองเรณูของดอกแพงพวยค่อย ๆ งอกหลอด ไปตกลงบนยอดเกสรเพศเมียเท่ำนั้น ยำวออกมำ 44. ถ้ าสมศักดิ์ต้องการจะปลูกส้ มเขียวหวานให้ มี 40. ส่ วนประกอบของดอกไม้ ถ้าเรียงจากชั้ นนอกสุ ด ลักษณะผลและรสเหมือนต้ นพ่อแม่ แล้ว สมศักดิ์ ไปยังชั้ นในสุ ดได้ แก่ อะไร ต้ องใช้ วธีการใด ิ 1 กลีบเลี้ยง กลีบดอก อับเรณู รังไข่ 1 กำรติดตำ 2 กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู ้ เกสรเพศเมีย 2 กำรตอนกิ่ง 3 เกสรเพศเมีย เกสรเพศผู ้ กลีบดอก กลีบเลี้ยง 3 กำรทำบกิ่ง 4 เกสรเพศเมีย เกสรเพศผู ้ ก้ำนเกสรเพศผู ้ รังไข่ 4 กำรเพำะด้วยเมล็ด 41. การสื บพันธุ์แบบอาศัยเพศได้ แก่ วธีการใด ิ 45. พืชเศรษฐกิจทีนิยมใช้ วธีการเพาะเลียงเนื้อเยือพืช ่ ิ ้ ่ 1 กำรปักชำ ในการขยายพันธุ์ได้ แก่ พืชชนิดใด 2 กำรต่อกิ่ง 1 ข้ำวโพด 3 กำรแตกหน่อ 2 กล้วย ไม้ 4 กำรเพำะเมล็ด 3 ยำงพำรำ 4 มันสำปะหลัง
  • 7. 7 46. การเพาะเลียงพืชทีสามารถคัดเลือกพันธุ์ใหม่ ทดี ้ ่ ี่ 50.“ดอกบัวจะหุบในตอนกลางคืนและบานในตอน ได้ คราวละมาก ๆ คืออะไร กลางวัน” พฤติกรรมดังกล่าวเป็ นการตอบสนอง 1 กำรชำ ต่ อสิ่ งเร้ าใด 2 กำรตอน 1 แสง 3 กำรติดตำ 2 ควำมชื้น 4 กำรเพำะเลี้ยงเนื้ อเยือพืช ่ 3 อุณหภูมิ 47. ส่ วนของพืชที่นิยมนามาใช้ ในการเพาะเลียง ้ 4 ควำมดันอำกำศ เนือเยือพืชคืออะไร ้ ่ 51. การหุบของใบไมยราบอย่ างรวดเร็ว เมื่อเราแตะ 1 ใบแก่ ๆ เบา ๆ เกิดจากการตอบสนองต่ อสิ่ งเร้ าใด 2 กิ่งแก่ ๆ 1 แก๊ส 3 รำกอ่อน 2 ควำมชื้น 4 ปลำยยอดอ่อน 3 อุณหภูมิ 48. การตัดต่ อยีนโดยวิธีทางพันธุวศวกรรมทาได้ โดย ิ 4 กำรสัมผัส วิธีใด 52. เซลล์ใดต่ อไปนีไม่ มีนิวเคลียส ้ 1 นำพืชไปผสมข้ำมพันธุ์เพื่อให้ได้ยนใหม่ ี 1 เซลล์ประสำท ั ั 2 แยกยีนที่มีลกษณะดีไวั้ใช้กบพันธุ์พืชพื้นเมือง 2 เซลล์เม็ดเลือดแดง 3 ตัดยีนที่ตองกำรของพืช สัตว์ ไปใส่ ในเซลล์พืช ้ 3 เซลล์กล้ำมเนื้อลำย เพื่อให้เกิดเซลล์ใหม่ที่มีลกษณะตำมที่ตองกำร ั ้ 4 เซลล์กล้ำมเนื้อเรี ยบ 4 เพำะเลี้ยงเซลล์พืชที่มีลกษณะที่ตองกำรใน ั ้ 53. เซลล์เม็ดเลือดแดงมีหน้ าทีอะไร ่ ห้องทดลอง แล้วนำยีนมำตัดแต่งโดยกำรเชื่ อม 1 นำแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ไปยังปอด ยีนที่มีลกษณะที่ตองกำรเข้ำด้วยกัน ั ้ 2 นำแก๊สออกซิ เจนจำกปอดไปยังอวัยวะต่ำง ๆ 49. สาเหตุที่ทาให้ พชแสดงพฤติกรรมการตอบสนอง ื 3 นำสำรที่เป็ นพิษต่อร่ ำงกำยไปกำจัดออกนอก โดยการเคลือนไหวแบบอัตโนมัติคืออะไร ่ เซลล์ 1 ควำมเข้มแสง 4 ขนส่ งแก๊สออกซิ เจนและแก๊สคำร์ บอน 2 อุณหภูมิของอำกำศ ไดออกไซด์ไปยังเซลล์ต่ำง ๆ ่ 3 ปริ มำณควำมชื้นที่มีอยูในอำกำศ 54. เม็ดสี เขียวทีเ่ ป็ นอวัยวะสร้ างอาหารภายในเซลล์ 4 กำรเปลี่ยนแปลงของแรงดันเต่งภำยในเซลล์ พืชเรียกว่าอะไร 1 นิวเคลียส 2 คลอโรฟิ ลล์ 3 ไซโทพลำซึม 4 คลอโรพลำสต์
  • 8. 8 55. ถ้ าเด็ดใบไม้ ในตอนเช้ ามืดมาทดสอบแปงจะพบ้ แสง หรือไม่ เพราะเหตุใด 3 คลอโรฟิ ลล์จำเป็ นต่อกำรสังเครำะห์ดวยแสง ้ 1 พบ เพราะพืชมีการสั งเคราะห์ ด้วยแสง ของพืช 2 พบ เพราะพืชสะสมนาตาลไว้ ในรู ปของ ้ 4 ใบเป็ นตำแหน่งสำคัญในกำรสังเครำะห์ดวย ้ แปง ้ แสงของพืช 3 ไม่ พบ เพราะแปงถูกเปลี่ยนเป็ นนาตาล ้ ้ 58. กิจกรรมใดช่ วยเพิมอัตราการสั งเคราะห์ ด้วยแสง ่ 4 ไม่ พบ เพราะยังไม่ มีการสั งเคราะห์ ด้วย ของพืช แสง 1 ใส่ ปุ๋ยเคมีให้พืชก่อนฝนตก 11 2 ใส่ ปุ๋ยเคมีให้พืชหลังฝนตก 23 3 เผำหญ้ำแห้งในเวลำกลำงวัน 3 1 และ 2 4 เผำหญ้ำแห้งในเวลำกลำงคืน 4 3 และ 4 59. การขาดธาตุใดทาให้ พชมีปริมาณคลอโรฟิ ลล์ ื 56. ข้ อความใดอธิบายการสั งเคราะห์ ด้วยแสงของ ลดลง พืชได้ ถูกต้ อง 1 เหล็ก 1 เปลี่ยนพลังงำนแสงเป็ นพลังงำนเคมี 2 สังกะสี 2 เปลี่ยนพลังงำนแสงเป็ นพลังงำนจลน์ 3 แคลเซียม 3 เปลี่ยนพลังงำนศักย์เป็ นพลังงำนจลน์ 4 แมกนีเซียม 4 เปลี่ยนพลังงำนแสงเป็ นพลังงำนควำมร้อน 60. ความแตกต่ างของเนือเยื่อลาเลียงอาหารและ ้ 57. จากการทดสอบหาแปงในใบชบาด่ าง พบว่าส่ วนสี ้ เนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ คืออะไร ้ ่ ้ ขาวของใบชบาด่ างไม่ มีแปง ข้ อสรุ ปทีเ่ หมาะสม ้ 1 เซลล์ยงมีชีวต ั ิ กับกาทดลองนีคืออะไร ้ 2 ไม่มีนิวเคลียส 1 กำรหำยใจเกิดขึ้นบริ เวณที่มีสีขำวของใบ 3 ลักษณะของท่อ 2 กำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืชจำเป็ นต้องใช้ ้ 4 ลักษณะของเซลล์
  • 9. 9 แบบอัตนัย คาชี้แจง ตอบคำถำมต่อไปนี้ ให้ถูกต้อง 1. “ถ้ าต้ องการศึกษาเกี่ยวกับการเจริ ญเติบโตของพืช เราควรศึกษาการเจริ ญเติบโตของลาต้ นและใบของพืชนั้น” นักเรี ยนเห็นด้วยกับคำกล่ำวนี้หรื อไม่ เพรำะเหตุใด 2. นักเรี ยนคิดว่ำเซลล์บริ เวณใดของพืชน่ำจะมีคลอโรพลำสต์มำก และถ้ำพืชไม่มีคลอโรพลำสต์อยูเ่ ลยจะมี ผลกระทบต่อสิ่ งมีชีวตชนิดอื่นหรื อไม่ ิ เฉลย ข้ อสอบกลางภาค ชุดที่ 1 แบบปรนัย 1. 1 2. 2 3. 4 4. 4 5. 4 6. 3 7. 3 8. 4 9. 4 10. 2 11. 3 12. 4 13. 4 14. 3 15. 2 16. 4 17. 4 18. 3 19. 4 20. 2 21. 3 22. 4 23. 2 24. 1 25. 4 26. 2 27. 1 28. 1 29. 4 30. 2 31. 4 32. 1 33. 1 34. 2 35. 4 36. 2 37. 3 38. 1 39. 4 40. 2 41. 4 42. 4 43. 1 44. 2 45. 2 46. 4 47. 4 48. 3 49. 4 50. 1 51. 4 52. 2 53. 4 54. 4 55. 4 56. 1 57. 3 58. 3 59. 1 60. 1 แบบอัตนัย 1. พืชต้องเปลี่ยนแป้ งเป็ นน้ ำตำลก่อนจะลำเลียงไปยังส่วนอื่น ๆ เพรำะ 1) น้ ำตำลละลำยน้ ำได้ 2) น้ ำตำลที่มีกำรย่อยจะมีอนุภำคเล็ก เช่น น้ ำตำลกลูโคส จะทำให้สะดวกต่อกำรแพร่ ่ 2. พืชมีคลอโรพลำสต์จำนวนมำกในไซโทพลำซึมที่อยูบริ เวณใบ คลอโรพลำสต์จะทำหน้ำที่สำคัญในกระบวนกำร สังเครำะห์ดวย ้ ่ แสงของพืช ได้น้ ำตำลเพื่อใช้ในกำรเจริ ญเติบโต และเก็บสะสมอยูในส่วนต่ำง ๆ ของพืช ถ้ำพืชไม่มี คลอโรพลำสต์จะไม่มีกำรสร้ำง อำหำร ทำให้สิ่งมีชีวตที่กินพืชขำดอำหำร และส่งผลต่อสิ่ งมีชีวตชนิดอื่น ๆ ในโซ่ อำหำร อีกด้วย ิ ิ